กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

เอเสเคียล 33

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48]

หน้าที่ของยามเฝ้าจิตวิญญาณ คือจงตักเตือนคนชั่ว
33:1 พระวจนะของพระเยโฮวาห์มายังข้าพเจ้าอีก โดยตรัสว่า
33:2 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพูดกับลูกหลานแห่งประชากรของเจ้า และกล่าวแก่พวกเขาว่า เมื่อเรานำดาบมาเหนือแผ่นดินใด ถ้าประชากรแห่งแผ่นดินนั้นเอาชายคนหนึ่งแห่งชายแดนทั้งหลายของพวกเขา และตั้งเขาไว้ให้เป็นยามของพวกเขา
33:3 ถ้าเมื่อเขาเห็นดาบมาเหนือแผ่นดิน เขาจงเป่าแตร และเตือนประชากร
33:4 แล้วผู้ใดก็ตามที่ได้ยินเสียงแตร และไม่เอาใจใส่การเตือนนั้น ถ้าดาบนั้นมาและพาคนนั้นไปเสีย โลหิตของคนนั้นจะตกอยู่บนศีรษะของคนนั้นเอง
33:5 เขาได้ยินเสียงแตร และไม่เอาใจใส่การเตือนนั้น โลหิตของคนนั้นจะตกอยู่บนคนนั้นเอง แต่ผู้ที่เอาใจใส่การเตือนนั้น ก็จะช่วยชีวิตของตนให้รอดพ้น
33:6 แต่ถ้าคนยามเห็นดาบมา และไม่เป่าแตร และประชากรไม่ได้รับการเตือน ถ้าดาบมาและพาคนหนึ่งคนใดไปเสียจากท่ามกลางพวกเขา คนนั้นถูกนำไปในความชั่วช้าของเขา แต่โลหิตของเขาเราจะเรียกร้องจากมือของยาม
33:7 ดังนั้น เจ้า โอ บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย เราได้ตั้งเจ้าไว้ให้เป็นคนยามต่อวงศ์วานแห่งอิสราเอล ฉะนั้นเจ้าจงฟังถ้อยคำจากปากของเรา และจงเตือนพวกเขาจากเรา
33:8 เมื่อเรากล่าวแก่คนชั่วว่า โอ คนชั่วเอ๋ย เจ้าจะตายเป็นแน่ ถ้าเจ้ามิได้กล่าวเพื่อเตือนคนชั่วให้กลับจากทางของเขา คนชั่วนั้นจะตายในความชั่วช้าของเขา แต่โลหิตของเขาเราจะเรียกร้องจากมือของเจ้า
33:9 แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าเจ้าเตือนคนชั่วเกี่ยวกับทางของเขาเพื่อให้หันกลับจากทางนั้นแล้ว ถ้าเขาไม่หันกลับจากทางของเขา เขาจะตายในความชั่วช้าของเขา แต่เจ้าได้ช่วยชีวิตของเจ้าเองให้รอดพ้นแล้ว
33:10 ฉะนั้น โอ เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงพูดกับวงศ์วานแห่งอิสราเอล พวกเจ้าจงกล่าวดังนี้ โดยกล่าวว่า ‘ถ้าบรรดาการละเมิดและบาปทั้งหลายของพวกเราอยู่เหนือพวกเรา และพวกเราก็ค่อย ๆ วอดวายไปในสิ่งเหล่านั้น พวกเราจะดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร’
33:11 จงกล่าวแก่พวกเขาว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัส เราไม่มีความพอใจในความตายของคนชั่วฉันนั้น แต่เพื่อให้คนชั่วหันจากทางของเขาและมีชีวิตอยู่ พวกเจ้าจงหันกลับ พวกเจ้าจงหันกลับจากทางชั่วร้ายของพวกเจ้า ด้วยว่าพวกเจ้าจะตายทำไม โอ วงศ์วานแห่งอิสราเอลเอ๋ย
33:12 ฉะนั้น เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย จงกล่าวแก่ลูกหลานแห่งประชากรของเจ้าว่า ความชอบธรรมของผู้ชอบธรรมจะไม่ช่วยเขาให้พ้นในวันแห่งการละเมิดของเขา สำหรับความชั่วของคนชั่วนั้น เขาจะไม่ล้มลงโดยความชั่วนั้นในวันที่เขาหันกลับจากความชั่วของเขา และคนชอบธรรมจะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้โดยความชอบธรรมของเขาในวันที่เขาทำบาป
33:13 เมื่อเราจะกล่าวแก่คนชอบธรรมว่า เขาจะมีชีวิตอยู่เป็นแน่ ถ้าเขายังวางใจในความชอบธรรมของตนเอง และกระทำความชั่วช้า บรรดาความชอบธรรมของเขาจะไม่อยู่ในความทรงจำอีก แต่สำหรับความชั่วช้าที่เขาได้กระทำนั้น เขาจะตายเพราะเหตุความชั่วช้านั้น
33:14 อีกประการหนึ่ง เมื่อเราได้กล่าวแก่คนชั่วว่า ‘เจ้าจะตายเป็นแน่’ ถ้าเขาหันกลับจากบาปของเขา และกระทำสิ่งซึ่งยุติธรรมและชอบธรรม
33:15 ถ้าคนชั่วคืนของประกัน เอาสิ่งที่เขาได้ขโมยมานั้นไปคืน ดำเนินในบรรดากฎเกณฑ์แห่งชีวิต โดยไม่กระทำความชั่วช้าใด ๆ เขาจะดำรงชีวิตอยู่เป็นแน่ เขาจะไม่ตาย
33:16 ไม่มีบาปใด ๆ ของเขาที่เขาได้กระทำแล้วนั้น จะถูกกล่าวถึงแก่เขา เขาได้กระทำสิ่งซึ่งยุติธรรมและชอบธรรม เขาจะดำรงชีวิตเป็นแน่
33:17 ถึงอย่างนั้นลูกหลานแห่งประชากรของเจ้ากล่าวว่า ‘วิธีการขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรม’ แต่สำหรับพวกเขา วิธีการของพวกเขาไม่ยุติธรรม
33:18 เมื่อคนชอบธรรมหันกลับจากความชอบธรรมของเขา และกระทำความชั่วช้า เขาจะตายเพราะเหตุความชั่วช้านั้น
33:19 แต่ถ้าคนชั่วหันกลับจากความชั่วของเขา และกระทำสิ่งซึ่งยุติธรรมและชอบธรรม เขาจะดำรงชีวิตอยู่ได้โดยการกระทำนั้น
33:20 แต่พวกเจ้ากล่าวว่า ‘วิธีการขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ยุติธรรม’ โอ พวกเจ้า วงศ์วานแห่งอิสราเอลเอ๋ย เราจะพิพากษาพวกเจ้าทุกคนตามวิธีการทั้งหลายของเขา”
33:21 และต่อมา ในปีที่สิบสองแห่งการเป็นเชลยของพวกเรา ในเดือนที่สิบ ในวันที่ห้าของเดือนนั้น คนหนึ่งที่ได้หนีออกมาจากกรุงเยรูซาเล็มมาหาข้าพเจ้า โดยกล่าวว่า “กรุงนั้นแตกเสียแล้ว”
33:22 บัดนี้พระหัตถ์ของพระเยโฮวาห์ได้มาอยู่เหนือข้าพเจ้าในเวลาเย็น ก่อนที่คนที่หนีมานั้นได้มาถึง และได้ทรงเปิดปากของข้าพเจ้า จนกระทั่งคนนั้นมาถึงข้าพเจ้าในตอนเช้า และปากของข้าพเจ้าก็ถูกเปิด และข้าพเจ้าก็ไม่ได้เป็นใบ้ต่อไป
33:23 แล้วพระวจนะของพระเยโฮวาห์มายังข้าพเจ้า โดยตรัสว่า
33:24 “บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย คนทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในบรรดาที่ร้างเปล่าของแผ่นดินอิสราเอลพูด โดยกล่าวว่า ‘อับราฮัมเป็นแต่คนเดียว และท่านได้ถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินนี้ แต่พวกเราเป็นหลายคนด้วยกัน แผ่นดินนี้ถูกมอบไว้ให้แก่พวกเราแล้วเป็นกรรมสิทธิ์’
33:25 เพราะฉะนั้น จงกล่าวแก่พวกเขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า พวกเจ้ารับประทานพร้อมกับเลือด และเงยหน้าของพวกเจ้าขึ้นต่อบรรดารูปเคารพของพวกเจ้า และทำให้โลหิตตก และพวกเจ้าจะถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินนี้หรือ
33:26 พวกเจ้ายืนอยู่ด้วยดาบของพวกเจ้า พวกเจ้ากระทำการอันน่าสะอิดสะเอียน และพวกเจ้าทุกคนกระทำให้ภรรยาของเพื่อนบ้านของตนเป็นมลทิน และพวกเจ้าจะถือกรรมสิทธิ์ในแผ่นดินนี้หรือ
33:27 เจ้าจงกล่าวเช่นนี้แก่พวกเขาว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าตรัสดังนี้ว่า เรามีชีวิตอยู่แน่ฉันใด คนเหล่านั้นที่อยู่ในบรรดาที่ร้างเปล่าจะล้มลงโดยดาบ และคนที่อยู่ในทุ่งโล่ง เราจะมอบให้แก่พวกสัตว์ป่าให้ถูกกัดกิน และคนเหล่านั้นที่อยู่ในบรรดาที่กำบังเข้มแข็งและในถ้ำทั้งหลายจะตายเพราะเหตุโรคระบาด
33:28 เพราะเราจะกระทำให้แผ่นดินนั้นรกร้างที่สุด และความหยิ่งผยองแห่งอานุภาพของเธอจะสูญสิ้นไป และบรรดาภูเขาแห่งอิสราเอลจะรกร้างไป จนไม่มีคนใด ๆ ผ่านเข้าไป
33:29 แล้วพวกเขาจะทราบว่าเราเป็นพระเยโฮวาห์ เมื่อเราได้กระทำให้แผ่นดินนั้นรกร้างที่สุด เพราะการอันน่าสะอิดสะเอียนทั้งสิ้นของพวกเขา ซึ่งพวกเขาได้กระทำนั้น
33:30 เช่นกัน เจ้า บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย ลูกหลานแห่งประชากรของเจ้าก็ยังพูดต่อต้านเจ้าข้างผนังทั้งหลาย และในบรรดาประตูของบ้านเรือนทั้งหลาย และพูดต่อกันและกัน ทุกคนพูดกับพี่น้องของตน โดยกล่าวว่า ‘มาเถิด ข้าขอร้องพวกเจ้า และฟังว่าพระวจนะที่ออกมาจากพระเยโฮวาห์คืออะไร’

ความหน้าซื่อใจคดของประชากร
33:31 และพวกเขาเข้ามาหาเจ้าอย่างที่ประชากรมา และพวกเขามานั่งตรงหน้าเจ้าเหมือนอย่างประชากรของเรา และพวกเขาฟังบรรดาถ้อยคำของเจ้า แต่พวกเขาไม่ยอมกระทำตามถ้อยคำเหล่านั้น เพราะว่าด้วยปากของพวกเขา พวกเขาแสดงความรักมาก แต่ใจของพวกเขามุ่งอยู่ตามความโลภของพวกเขา
33:32 และดูเถิด เจ้าเป็นเหมือนเพลงที่น่ารักมากของคนหนึ่งที่มีเสียงไพเราะ และสามารถเล่นเครื่องดนตรีได้ดีแก่พวกเขา เพราะพวกเขาฟังบรรดาถ้อยคำของเจ้า แต่พวกเขาไม่ยอมกระทำตามถ้อยคำเหล่านั้น
33:33 และเมื่อสิ่งนี้มาถึงแล้ว (ดูเถิด มันจะมา) เมื่อนั้นพวกเขาจะทราบว่าผู้พยากรณ์คนหนึ่งอยู่ในท่ามกลางพวกเขาแล้ว”

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope