กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

มัทธิว 21

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28]

พระเยซูทรงเสด็จเข้าสู่กรุงเยรูซาเล็มอย่างผู้มีชัยชนะ (ศคย 9:9; มก 11:1-10; ลก 19:29-38; ยน 12:12-19)
21:1 และเมื่อพระองค์กับพวกสาวกมาใกล้กรุงเยรูซาเล็ม และมาถึงหมู่บ้านเบธฟายี ถึงเชิงภูเขามะกอกเทศ แล้วพระเยซูทรงส่งสาวกสองคนไป
21:2 โดยตรัสกับพวกเขาว่า “จงเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ตรงหน้าพวกท่าน และทันทีพวกท่านจะพบแม่ลาตัวหนึ่งผูกอยู่ และลูกลาตัวหนึ่งอยู่กับมัน จงแก้พวกมัน และจูงพวกมันมาให้เรา
21:3 และถ้าผู้ใดว่าอะไรแก่พวกท่าน พวกท่านจงกล่าวว่า ‘องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงต้องการพวกมัน’ และเขาจะปล่อยให้พวกมันมาทันที”
21:4 สิ่งเหล่านี้ทั้งสิ้นได้เกิดขึ้น เพื่อสิ่งนี้จะสำเร็จซึ่งถูกกล่าวไว้โดยศาสดาพยากรณ์ผู้นั้น ซึ่งกล่าวว่า
21:5 ‘ท่านทั้งหลายจงกล่าวแก่ธิดาแห่งศิโยนว่า ดูเถิด กษัตริย์ของเธอกำลังเสด็จมาหาเธอ มีพระทัยอ่อนสุภาพ และทรงลาตัวหนึ่งกับลูกลาตัวหนึ่งซึ่งเป็นลูกของลาตัวหนึ่ง’
21:6 และสาวกทั้งสองคนนั้นก็ไป และกระทำตามที่พระเยซูตรัสสั่งพวกเขาไว้
21:7 และจูงแม่ลาตัวนั้นกับลูกลามา และเอาเสื้อผ้าของพวกเขาปูบนหลังพวกมัน และพวกเขาให้พระองค์ทรงนั่งบนลาตัวนั้น
21:8 และประชาชนเป็นอันมากได้เอาเสื้อผ้าของตนปูตามหนทาง คนอื่น ๆ ก็ตัดกิ่งไม้ทั้งหลายจากพวกต้นไม้ และมาปูกิ่งไม้เหล่านั้นตามหนทาง
21:9 และประชาชนเหล่านั้นซึ่งเดินไปข้างหน้าและที่ตามมาข้างหลังก็โห่ร้องกัน โดยกล่าวว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด ‘ขอให้พระองค์ผู้เสด็จมาในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรับพระพร’ โฮซันนาในที่สูงสุด”
21:10 และเมื่อพระองค์เสด็จเข้ามาในกรุงเยรูซาเล็มแล้ว ทั้งกรุงก็แตกตื่น โดยกล่าวว่า “ท่านผู้นี้เป็นผู้ใด”
21:11 และประชาชนกล่าวว่า “นี่คือเยซูศาสดาพยากรณ์ของนาซาเร็ธแห่งแคว้นกาลิลี”

พระเยซูทรงชำระล้างพระวิหารเป็นครั้งที่สอง (มก 11:15-18; ลก 19:45-47)
21:12 และพระเยซูได้เสด็จเข้าไปในพระวิหารของพระเจ้า และทรงขับไล่พวกเขาทุกคนที่ขายและซื้อในพระวิหารนั้น และคว่ำโต๊ะทั้งหลายของบรรดาผู้รับแลกเงิน กับบรรดาที่นั่งของคนเหล่านั้นที่ขายนกเขาทั้งหลายเสีย
21:13 และตรัสกับพวกเขาว่า “มีเขียนไว้แล้วว่า ‘นิเวศน์ของเราจะถูกเรียกว่าเป็นนิเวศน์แห่งการอธิษฐาน’ แต่เจ้าทั้งหลายได้กระทำให้นิเวศน์นั้นเป็น ‘ถ้ำของพวกโจร’”
21:14 และคนตาบอดกับคนง่อยมาหาพระองค์ในพระวิหาร และพระองค์ทรงรักษาพวกเขาให้หาย
21:15 และเมื่อพวกปุโรหิตใหญ่กับพวกธรรมาจารย์ได้เห็นบรรดาสิ่งมหัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทำ และพวกเด็ก ๆ กำลังร้องในพระวิหาร และกล่าวว่า “โฮซันนาแก่ราชโอรสของดาวิด” เขาทั้งหลายก็แค้นเคือง
21:16 และกล่าวแก่พระองค์ว่า “ท่านไม่ได้ยินสิ่งที่คนเหล่านี้ร้องหรือ” และพระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ได้ยินแล้ว พวกท่านยังไม่เคยอ่านหรือว่า ‘จากปากของพวกเด็กทารกและพวกเด็กที่ยังดูดนม ท่านก็ได้รับคำสรรเสริญอันจริงแท้’”
21:17 และพระองค์ได้ทรงละจากพวกเขา และเสด็จออกจากกรุงเข้าไปในหมู่บ้านเบธานี และพระองค์ทรงพักอยู่ที่นั่น

ต้นมะเดื่อที่ถูกสาปแช่งได้เหี่ยวแห้งไป (มก 11:12-14, 20-24)
21:18 บัดนี้ในเวลาเช้า ขณะที่พระองค์เสด็จกลับเข้าไปยังกรุง พระองค์ก็ทรงหิว
21:19 และเมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นต้นมะเดื่อต้นหนึ่งอยู่ริมทาง พระองค์ก็ดำเนินเข้ามาถึงต้นนั้น และไม่ได้พบผลใด ๆ บนต้นนั้น มีแต่ใบไม้ทั้งหลายเท่านั้น และตรัสกับต้นมะเดื่อนั้นว่า “อย่าให้มีผลงอกขึ้นบนเจ้านับจากนี้เป็นต้นไป” และทันใดนั้นต้นมะเดื่อนั้นก็เหี่ยวแห้งไป
21:20 และเมื่อพวกสาวกได้เห็นดังนั้น พวกเขาก็ประหลาดใจ โดยกล่าวว่า “เป็นอย่างไรหนอต้นมะเดื่อนั้นจึงเหี่ยวแห้งไปในทันใด”
21:21 พระเยซูทรงตอบและตรัสกับพวกเขาว่า “เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าพวกท่านมีความเชื่อและมิได้สงสัย พวกท่านจะไม่เพียงกระทำสิ่งนี้ซึ่งได้กระทำแก่ต้นมะเดื่อนี้ แต่ถ้าพวกท่านจะกล่าวแก่ภูเขานี้ด้วยว่า ‘เจ้าจงถอยไป และเจ้าจงถูกโยนเข้าไปในทะเล’ สิ่งนั้นก็จะถูกกระทำ
21:22 และสิ่งสารพัด สิ่งใดก็ตามที่พวกท่านจะขอในการอธิษฐาน โดยมีความเชื่อ พวกท่านจะได้รับ”

พระเยซูทรงแต่งตั้งสิทธิอำนาจของพระองค์ (มก 11:27-33; ลก 20:1-8)
21:23 และเมื่อพระองค์เสด็จเข้ามาในพระวิหารแล้ว พวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้อาวุโสของประชาชนมาหาพระองค์ขณะที่พระองค์กำลังสั่งสอนอยู่ และกล่าวว่า “ท่านกระทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอันใด และผู้ใดได้ให้สิทธิอำนาจนี้แก่ท่าน”
21:24 และพระเยซูทรงตอบและตรัสกับพวกเขาว่า “เราจะถามพวกท่านสักข้อหนึ่งด้วย ซึ่งถ้าพวกท่านบอกเรา เราก็จะบอกพวกท่านเหมือนกันว่าเรากระทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอันใด
21:25 บัพติศมาของยอห์นนั้นมาจากไหน มาจากสวรรค์หรือเป็นของมนุษย์” และพวกเขาจึงให้เหตุผลกับพวกเขาเอง โดยกล่าวว่า “ถ้าพวกเราจะกล่าวว่า ‘มาจากสวรรค์’ เขาก็จะกล่าวแก่พวกเราว่า ‘ทำไมพวกท่านจึงไม่เชื่อยอห์นเล่า’
21:26 แต่ถ้าพวกเราจะกล่าวว่า ‘เป็นของมนุษย์’ พวกเราก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนทุกคนถือว่ายอห์นเป็นศาสดาพยากรณ์คนหนึ่ง”
21:27 และพวกเขาตอบพระเยซู และกล่าวว่า “พวกเราไม่สามารถบอกได้” และพระองค์จึงตรัสกับพวกเขาว่า “เราจะไม่บอกพวกท่านเหมือนกันว่า เรากระทำสิ่งเหล่านี้โดยสิทธิอำนาจอันใด

คำอุปมาเกี่ยวกับบุตรชายสองคน
21:28 แต่ท่านทั้งหลายคิดอะไร ชายผู้หนึ่งมีบุตรชายสองคน และเขาได้มาหาบุตรคนแรก และกล่าวว่า ‘ลูกเอ๋ย วันนี้จงไปทำงานในสวนองุ่นของพ่อเถิด’
21:29 บุตรคนนั้นตอบและกล่าวว่า ‘ลูกจะไม่ไป’ แต่ภายหลังบุตรคนนั้นก็กลับใจและไป
21:30 และเขาได้มาหาบุตรคนที่สอง และกล่าวเช่นเดียวกัน และบุตรคนนั้นตอบและกล่าวว่า ‘ลูกไปขอรับ’ และไม่ได้ไป
21:31 คนไหนในบุตรสองคนนี้ได้ทำตามความประสงค์ของบิดาของตนเล่า” พวกเขากล่าวแก่พระองค์ว่า “บุตรคนแรก” พระเยซูตรัสแก่พวกเขาว่า “เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า พวกคนเก็บภาษีและพวกหญิงโสเภณีเข้าไปในอาณาจักรของพระเจ้าก่อนท่านทั้งหลาย
21:32 ด้วยว่ายอห์นได้มาหาพวกท่านในทางแห่งความชอบธรรม และพวกท่านไม่ได้เชื่อยอห์น แต่พวกคนเก็บภาษีและพวกหญิงโสเภณีได้เชื่อยอห์น และท่านทั้งหลาย เมื่อพวกท่านได้เห็นสิ่งนั้นแล้ว ภายหลังก็ไม่ได้กลับใจ เพื่อพวกท่านจะเชื่อยอห์น

คำอุปมาเกี่ยวกับผู้เช่าสวนที่ไม่ซื่อสัตย์ (อสย 5:1-7; มก 12:1-9; ลก 20:9-19)
21:33 จงฟังคำอุปมาอีกเรื่องหนึ่งว่า มีเจ้าของบ้านคนหนึ่ง ซึ่งได้ปลูกสวนองุ่นแห่งหนึ่ง และล้อมรั้วต้นไม้ไว้รอบสวนนั้น และได้ขุดบ่อย่ำองุ่นในสวนนั้น และสร้างหอเฝ้า และให้พวกชาวสวนเช่าสวนนั้น และไปยังแผ่นดินไกล
21:34 และเมื่อฤดูเก็บผลองุ่นใกล้เข้ามาแล้ว เขาจึงส่งพวกผู้รับใช้ของเขาไปหาพวกเช่าสวน เพื่อพวกผู้รับใช้จะรับผลทั้งหลายแห่งสวนองุ่นนั้น
21:35 และพวกเช่าสวนนั้นจับพวกผู้รับใช้ของเขา และเฆี่ยนตีคนหนึ่ง และฆ่าเสียอีกคนหนึ่ง และเอาหินขว้างอีกคนหนึ่ง
21:36 อีกครั้ง เขาก็ส่งพวกผู้รับใช้คนอื่น ๆ ไปมากกว่าครั้งแรก และพวกเช่าสวนก็ได้กระทำแก่พวกเขาในแบบเดียวกัน
21:37 แต่ครั้งสุดท้าย เขาจึงส่งบุตรชายของเขาไปหาพวกเช่าสวน โดยกล่าวว่า ‘พวกเขาจะเคารพบุตรชายของเรา’
21:38 แต่เมื่อพวกเช่าสวนเห็นบุตรชายคนนั้น พวกเขาก็กล่าวกันในท่ามกลางพวกเขาว่า ‘คนนี้แหละเป็นทายาท จงมาเถิด ให้พวกเราฆ่าเขา และให้พวกเรายึดมรดกของเขาเสีย’
21:39 และพวกเขาจึงจับบุตรคนนั้น และผลักเขาออกไปนอกสวนองุ่น และฆ่าเขาเสีย
21:40 เหตุฉะนั้น เมื่อเจ้าของสวนองุ่นมา เขาจะทำอะไรแก่พวกเช่าสวนเหล่านั้น”
21:41 เขาทั้งหลายกล่าวแก่พระองค์ว่า “เขาจะทำลายล้างคนชั่วเหล่านั้นอย่างแสนสาหัส และจะให้คนเช่าสวนคนอื่นเช่าสวนองุ่นของเขา ผู้ซึ่งจะแบ่งผลตามฤดูกาลของพวกมันให้แก่เขา”
21:42 พระเยซูตรัสกับพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายยังไม่เคยอ่านในพระคัมภีร์หรือซึ่งว่า ‘ศิลาซึ่งพวกช่างก่อได้ปฏิเสธเสีย ศิลาอันเดียวกันนั้นได้กลายเป็นศิลามุมเอกแล้ว สิ่งนี้เป็นการกระทำขององค์พระผู้เป็นเจ้า และสิ่งนี้ก็มหัศจรรย์ในสายตาของพวกเรา’
21:43 เหตุฉะนั้นเราจึงกล่าวแก่พวกท่านว่า อาณาจักรของพระเจ้าจะถูกเอาไปเสียจากพวกท่าน และยกให้แก่ชนชาติหนึ่งซึ่งจะกระทำให้เกิดผลทั้งหลายของอาณาจักรนั้น
21:44 และผู้ใดก็ตามที่จะล้มทับศิลานี้ จะถูกทำให้แตกหักไป แต่ผู้ใดก็ตามที่จะถูกศิลานี้ตกทับ ศิลานั้นจะบดขยี้ผู้นั้นจนแหลกเป็นผุยผง”
21:45 และเมื่อพวกปุโรหิตใหญ่กับพวกฟาริสีได้ยินคำอุปมาทั้งหลายของพระองค์ พวกเขาก็รับรู้ว่าพระองค์ตรัสเล็งถึงพวกเขา
21:46 แต่เมื่อพวกเขาหาโอกาสที่จะลงมือจับพระองค์ พวกเขาก็กลัวประชาชน เพราะประชาชนนับถือพระองค์ว่าเป็นศาสดาพยากรณ์

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope