กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

มาระโก 13

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16]

การสนทนาบนภูเขามะกอกเทศ (มธ 24-25; ลก 21)
13:1 และขณะที่พระองค์เสด็จออกจากพระวิหาร คนหนึ่งในพวกสาวกของพระองค์ทูลพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ขอดูลักษณะของศิลาต่าง ๆ และอาคารทั้งหลายซึ่งมีอยู่ที่นี่”
13:2 และพระองค์ตรัสตอบสาวกคนนั้นว่า “ท่านเห็นอาคารใหญ่เหล่านี้หรือ จะไม่มีศิลาก้อนใดที่ซ้อนทับกันเหลืออยู่ ที่จะไม่ถูกขว้างลง”
13:3 และขณะที่พระองค์ประทับนั่งบนภูเขามะกอกเทศตรงหน้าพระวิหาร เปโตร และยากอบ และยอห์น และอันดรูว์มากราบทูลถามพระองค์เป็นการส่วนตัวว่า
13:4 “ขอโปรดบอกข้าพระองค์ทั้งหลายว่า สิ่งเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นเมื่อไร และอะไรจะเป็นหมายสำคัญเมื่อบรรดาสิ่งเหล่านี้จะสำเร็จ”

เส้นทางแห่งยุคนี้
13:5 และพระเยซูทรงตอบพวกเขา โดยเริ่มตรัสว่า “จงระวังให้ดี เกรงว่าผู้ใดจะล่อลวงพวกท่านให้หลง
13:6 ด้วยว่าหลายคนจะมาในนามของเรา โดยกล่าวว่า ‘ข้าคือพระคริสต์’ และจะล่อลวงคนเป็นอันมากให้หลง
13:7 และเมื่อท่านทั้งหลายจะได้ยินถึงเรื่องบรรดาสงครามและข่าวลือเรื่องสงครามทั้งหลาย พวกท่านจงอย่าเป็นทุกข์เลย ด้วยว่าบรรดาสิ่งเช่นนี้จะต้องบังเกิดขึ้น แต่ที่สุดปลายจะยังไม่มาถึง
13:8 เพราะประชาชาติจะลุกขึ้นต่อสู้ประชาชาติ และราชอาณาจักรต่อราชอาณาจักร และจะเกิดแผ่นดินไหวในสถานที่ต่าง ๆ และจะเกิดบรรดาการกันดารอาหารและความทุกข์ยากต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็นขั้นแรกแห่งบรรดาความเจ็บปวด
13:9 แต่จงระวังตัวพวกท่านเองให้ดี เพราะพวกเขาจะมอบท่านทั้งหลายไว้กับสภาทั้งหลาย และในธรรมศาลาทั้งหลายพวกท่านจะถูกโบยตี และพวกท่านจะถูกนำไปต่อหน้าบรรดาผู้ปกครองและกษัตริย์ทั้งหลายเพราะเห็นแก่เรา เพื่อจะได้เป็นพยานต่อพวกเขา
13:10 และข่าวประเสริฐจะต้องถูกประกาศในท่ามกลางบรรดาประชาชาติก่อน
13:11 แต่เมื่อพวกเขาจะนำพวกท่านไป และมอบพวกท่านไว้นั้น อย่าเป็นกังวลล่วงหน้าว่าพวกท่านจะพูดอะไรดี และพวกท่านอย่าไตร่ตรองล่วงหน้าเลย แต่อะไรก็ตามที่จะประทานแก่พวกท่านในโมงนั้น พวกท่านจงพูดสิ่งนั้น เพราะว่าพวกท่านมิได้เป็นผู้ที่พูด แต่เป็นพระวิญญาณบริสุทธิ์
13:12 บัดนี้พี่ก็จะทรยศน้องให้ถึงความตาย และพ่อก็จะทรยศลูกชาย และลูก ๆ ก็จะขึ้นมาต่อสู้พ่อแม่ของตน และจะทำให้พ่อแม่ถูกประหารชีวิต
13:13 และพวกท่านจะถูกเกลียดชังโดยคนทั้งสิ้นเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่ผู้ที่จะอดทนจนถึงที่สุด ผู้เดียวกันนั้นเองจะรอดพ้น

ความทุกข์เวทนาใหญ่ยิ่ง (มธ 24:15)
13:14 แต่เมื่อท่านทั้งหลายจะเห็นสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนแห่งการรกร้างว่างเปล่า ที่ถูกกล่าวถึงโดยดานิเอลศาสดาพยากรณ์นั้น ยืนอยู่ในที่ซึ่งมันไม่ควร” (จงให้ผู้ที่อ่านเข้าใจเถิด) “แล้วจงให้คนทั้งหลายที่อยู่ในแคว้นยูเดียหนีไปยังภูเขาทั้งหลาย
13:15 และจงอย่าให้คนที่อยู่บนดาดฟ้าบ้าน ลงไปในบ้าน หรือเข้าไปในบ้านนั้น เพื่อเก็บสิ่งของใด ๆ ออกจากบ้านของตน
13:16 และจงอย่าให้คนที่อยู่ตามทุ่งนา กลับมาเอาเสื้อผ้าของตนไป
13:17 แต่วิบัติแก่คนทั้งหลายที่มีเด็กในครรภ์ และแก่คนทั้งหลายที่มีลูกอ่อนกินนมอยู่ในวันเหล่านั้น
13:18 และท่านทั้งหลายจงอธิษฐานว่า การหนีไปของพวกท่านจะไม่เกิดขึ้นในฤดูหนาว
13:19 ด้วยว่าในวันเหล่านั้นจะเกิดความทุกข์ลำบาก อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่การเริ่มต้นแห่งสิ่งทรงสร้างซึ่งพระเจ้าได้ทรงเนรมิตสร้างนั้นจนถึงเวลานี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย
13:20 และถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงทำให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้าแล้ว ก็คงไม่มีเนื้อหนังใด ๆ รอดได้เลย แต่เพราะเห็นแก่บรรดาผู้ถูกเลือกสรร ผู้ซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกไว้นั้น พระองค์จึงทรงทำให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้าแล้ว
13:21 และเมื่อนั้นถ้าผู้ใดจะกล่าวแก่พวกท่านว่า ‘ดูเถิด พระคริสต์อยู่ที่นี่’ หรือ ‘ดูเถิด พระองค์อยู่ที่โน่น’ อย่าเชื่อเขาเลย
13:22 ด้วยว่าจะมีพระคริสต์เทียมเท็จและผู้พยากรณ์เทียมเท็จเกิดขึ้นหลายคน และจะแสดงบรรดาหมายสำคัญและการมหัศจรรย์ทั้งหลาย เพื่อจะล่อลวง ถ้าเป็นไปได้ แม้แต่คนที่ถูกเลือกสรรให้หลง
13:23 แต่ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดี ดูเถิด เราได้บอกสิ่งสารพัดแก่ท่านทั้งหลายไว้ก่อนแล้ว

การเสด็จกลับมาขององค์พระผู้เป็นเจ้าในสง่าราศี (มธ 24:27-31)
13:24 แต่ในวันเหล่านั้น หลังจากความทุกข์ลำบากนั้นผ่านไปแล้ว ‘ดวงอาทิตย์จะมืดไป และดวงจันทร์จะไม่ส่องแสงของมัน
13:25 และดวงดาวทั้งหลายแห่งฟ้าสวรรค์จะตกลงมา และบรรดาสิ่งที่มีอำนาจที่อยู่ในฟ้าสวรรค์จะถูกเขย่าให้สะเทือน’
13:26 และเมื่อนั้นเขาทั้งหลายจะเห็น ‘บุตรมนุษย์เสด็จมาในหมู่เมฆ’ ด้วยฤทธานุภาพอันยิ่งใหญ่และสง่าราศี
13:27 และเมื่อนั้นพระองค์จะทรงส่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์มา และจะรวบรวมบรรดาคนที่ทรงถูกเลือกสรรไว้แล้วของพระองค์จากลมทั้งสี่ทิศนั้น ตั้งแต่ที่สุดปลายแห่งแผ่นดินโลกจนถึงที่สุดปลายแห่งฟ้าสวรรค์

คำอุปมาเกี่ยวกับต้นมะเดื่อ (มธ 24:32-33; ลก 21:29-31)
13:28 บัดนี้ จงเรียนคำอุปมาเรื่องต้นมะเดื่อ เมื่อกิ่งก้านของมันยังอ่อนอยู่ และแตกใบทั้งหลายแล้ว พวกท่านก็ทราบว่าฤดูร้อนใกล้จะถึงแล้ว
13:29 ดังนั้นพวกท่านในลักษณะเดียวกัน เมื่อพวกท่านจะเห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น ก็จงทราบเถิดว่าเวลานั้นอยู่ใกล้แล้ว คือที่ประตูเหล่านั้นแล้ว
13:30 เรากล่าวความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า คนชั่วอายุนี้จะไม่ล่วงลับไป จนกว่าสิ่งสารพัดเหล่านี้จะสำเร็จ

จงเฝ้าคอยการเสด็จกลับมาของพระคริสต์อย่างต่อเนื่อง
13:31 ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกจะล่วงไป แต่บรรดาคำของเราจะไม่สูญหายไปเลย
13:32 แต่เกี่ยวกับวันนั้นและโมงนั้น ไม่มีผู้ใดทราบ ไม่มี แม้แต่เหล่าทูตสวรรค์ซึ่งอยู่ในสวรรค์ หรือพระบุตร เว้นแต่พระบิดา
13:33 ท่านทั้งหลายจงระวังให้ดี จงเฝ้าระวังและอธิษฐานอยู่ เพราะพวกท่านไม่ทราบว่าเวลานั้นคือเมื่อไร
13:34 ด้วยว่าบุตรมนุษย์เปรียบเหมือนเจ้าของบ้านคนหนึ่งที่ออกเดินทางไกล ผู้ซึ่งไปจากบ้านของเขา และได้มอบสิทธิอำนาจให้แก่พวกผู้รับใช้ของเขา และให้ทุกคนมีการงานของตน และได้สั่งนายประตูให้เฝ้าอยู่
13:35 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเฝ้าระวังอยู่ เพราะพวกท่านไม่ทราบว่าเจ้าของบ้านจะมาเมื่อไร จะมาเวลาเย็น หรือเที่ยงคืน หรือเวลาที่ไก่ขัน หรือในตอนเช้า
13:36 เกรงว่าเมื่อมาอย่างกะทันหัน เจ้าของบ้านจะพบพวกท่านกำลังนอนหลับอยู่
13:37 และสิ่งที่เรากล่าวแก่พวกท่าน เราก็กล่าวแก่ทุกคนว่า จงเฝ้าระวังอยู่เถิด”

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope