กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

มาระโก 15

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16]

พระเยซูทรงถูกนำไปอยู่ต่อหน้าปีลาต (มธ 27:1-2, 11-15; ลก 23:1-7, 13-18; ยน 18:28-40; 19:1-16)
15:1 และทันใดนั้นในตอนเช้า พวกปุโรหิตใหญ่ได้ปรึกษากันกับพวกผู้อาวุโส และพวกธรรมาจารย์ และบรรดาสมาชิกสภา และได้มัดพระเยซู และพาพระองค์ไป และมอบพระองค์ไว้แก่ปีลาต
15:2 และปีลาตถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ” และพระองค์ตรัสตอบท่านว่า “ก็ท่านว่าแล้วนี่”
15:3 และพวกปุโรหิตใหญ่ได้ฟ้องพระองค์เป็นหลายประการ แต่พระองค์มิได้ตรัสตอบประการใด
15:4 และปีลาตถามพระองค์อีก โดยกล่าวว่า “ท่านไม่ตอบอะไรหรือ ดูเถิด พวกเขากล่าวความปรักปรำท่านเป็นหลายประการ”
15:5 แต่พระเยซูยังมิได้ตรัสตอบประการใด จนปีลาตประหลาดใจ
15:6 บัดนี้ในเทศกาลเลี้ยงนั้น ปีลาตเคยปล่อยนักโทษคนหนึ่งให้แก่พวกเขา ผู้ใดก็ตามที่พวกเขาปรารถนา

บารับบัสถูกปล่อยไป พระเยซูจะถูกตรึงที่กางเขน (มธ 27:16-26; ลก 23:16-25; ยน 18:40)
15:7 และมีคนหนึ่งชื่อ บารับบัส ซึ่งถูกมัดไว้กับคนเหล่านั้นที่ได้ทำการจลาจลกับเขา ผู้ซึ่งได้กระทำการฆาตกรรมในการจลาจลนั้น
15:8 และประชาชนซึ่งได้ร้องเสียงดัง ก็เริ่มขอปีลาตให้ทำตามที่ท่านเคยทำให้พวกเขานั้น
15:9 แต่ปีลาตได้ตอบพวกเขา โดยกล่าวว่า “เจ้าทั้งหลายปรารถนาจะให้เราปล่อยกษัตริย์ของพวกยิวแก่พวกเจ้าหรือ”
15:10 ด้วยว่าท่านทราบอยู่ว่า พวกปุโรหิตใหญ่ได้มอบพระองค์ไว้เพราะความอิจฉา
15:11 แต่พวกปุโรหิตใหญ่ยุยงประชาชนว่า ปีลาตควรปล่อยบารับบัสแก่พวกเขามากกว่า
15:12 และปีลาตตอบและกล่าวแก่พวกเขาอีกว่า “ถ้าอย่างนั้น เจ้าทั้งหลายปรารถนาจะให้เราทำอะไรแก่คนนี้ ผู้ซึ่งเจ้าทั้งหลายเรียกว่า กษัตริย์ของพวกยิว”
15:13 และเขาทั้งหลายร้องตะโกนอีกว่า “ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
15:14 แล้วปีลาตกล่าวแก่เขาทั้งหลายว่า “ทำไม เขาได้ทำความชั่วร้ายประการใด” และเขาทั้งหลายยิ่งร้องมากขึ้นว่า “ตรึงเขาเสียที่กางเขนเถิด”
15:15 และดังนั้นปีลาต ซึ่งปรารถนาจะเอาใจประชาชน จึงปล่อยบารับบัสให้แก่พวกเขา และมอบพระเยซู เมื่อท่านได้โบยตีพระองค์แล้ว ให้ถูกตรึงที่กางเขน

พระเยซูถูกสวมมงกุฎหนาม (มธ 27:27-31)
15:16 และพวกทหารจึงนำพระองค์เข้าไปในราชสำนัก ที่ถูกเรียกว่า ศาลาปรีโทเรียม และพวกทหารเรียกทั้งกองให้มารวมตัวกัน
15:17 และพวกเขาสวมเสื้อสีม่วงให้พระองค์ และได้ทอมงกุฎหนาม และสวมมงกุฎนั้นรอบพระเศียรของพระองค์
15:18 และเริ่มคำนับพระองค์ว่า “ขอทรงพระเจริญ กษัตริย์ของพวกยิว”
15:19 และพวกเขาได้ตีพระองค์บนพระเศียรด้วยไม้อ้อ และได้ถ่มน้ำลายรดพระองค์ และเมื่อคุกเข่าของพวกเขาลง ได้นมัสการพระองค์
15:20 และเมื่อพวกเขาได้ล้อเลียนพระองค์แล้ว พวกเขาก็ถอดเสื้อสีม่วงนั้นออกจากพระองค์ และเอาเสื้อผ้าของพระองค์เองสวมให้พระองค์ และนำพระองค์ออกไปเพื่อจะตรึงพระองค์เสียที่กางเขน
15:21 และพวกเขาจึงเกณฑ์คนหนึ่งชื่อ ซีโมนชาวไซรีน ผู้ที่เดินผ่านมา เมื่อออกมาจากบ้านนอก เป็นบิดาของอเล็กซานเดอร์และรูฟัส ให้แบกกางเขนของพระองค์ไป

การตรึงที่ไม้กางเขน (มธ 27:33-56; ลก 23:33-49; ยน 19:17-37)
15:22 และพวกเขาพาพระองค์มาถึงสถานที่แห่งหนึ่งชื่อ กลโกธา ที่แปลว่า สถานที่แห่งกะโหลกศีรษะอันหนึ่ง
15:23 และพวกเขาเอาน้ำองุ่นระคนกับมดยอบให้พระองค์ดื่ม แต่พระองค์ไม่ยอมรับน้ำองุ่นนั้น
15:24 และเมื่อพวกเขาได้ตรึงพระองค์ที่กางเขนแล้ว พวกเขาก็เอาเสื้อผ้าของพระองค์มาแบ่งปันกัน โดยจับสลากกันแบ่งปันเสื้อผ้าเหล่านั้น ว่าแต่ละคนควรจะเอาอะไรไป
15:25 และเป็นเวลาสามโมงเช้า และพวกเขาได้ตรึงพระองค์ที่กางเขน
15:26 และข้อกล่าวหาที่ลงโทษพระองค์มาติดไว้ข้างบน ซึ่งเขียนว่า “กษัตริย์ของชนชาติยิว”
15:27 และพร้อมกับพระองค์พวกเขาตรึงโจรสองคนไว้ ข้างขวาพระหัตถ์ของพระองค์คนหนึ่ง และข้างซ้ายพระหัตถ์ของพระองค์อีกคนหนึ่ง
15:28 และพระคัมภีร์ข้อนั้นได้ถูกทำให้สำเร็จจริง ซึ่งกล่าวว่า ‘และท่านถูกนับเข้ากับบรรดาผู้ละเมิด’
15:29 และคนทั้งหลายที่เดินผ่านไปมานั้นก็ด่าว่าพระองค์ โดยส่ายศีรษะของพวกเขา และกล่าวว่า “ฮ้า เจ้าผู้ที่ทำลายพระวิหาร และสร้างมันขึ้นมาในสามวันน่ะ
15:30 จงช่วยตัวเองให้รอด และลงมาจากกางเขนเถิด”
15:31 ในทำนองเดียวกันพวกปุโรหิตใหญ่ก็ล้อเลียนพระองค์ด้วย โดยกล่าวในท่ามกลางพวกเขาเองพร้อมกับพวกธรรมาจารย์ว่า “เขาเคยช่วยคนอื่นให้รอดได้ เขาช่วยตัวเองให้รอดไม่ได้
15:32 จงให้เจ้าพระคริสต์ กษัตริย์ของลูกหลานของอิสราเอล ลงมาจากกางเขนเดี๋ยวนี้เถิด เพื่อพวกเราจะได้เห็นและเชื่อ” และสองคนนั้นที่ถูกตรึงไว้พร้อมกับพระองค์ก็ด่าว่าพระองค์
15:33 และเมื่อเวลาเที่ยงมาถึงแล้ว ก็บังเกิดความมืดทั่วทั้งแผ่นดินจนถึงเวลาบ่ายสามโมง
15:34 และตอนบ่ายสามโมงนั้น พระเยซูทรงร้องเสียงดัง โดยทูลว่า “เอโลอี เอโลอี ลามาสะบักธานี” ที่แปลว่า “พระเจ้าของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ทำไมพระองค์ทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เสียแล้ว”
15:35 และบางคนในพวกเขาที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ เมื่อพวกเขาได้ยินเช่นนั้น กล่าวว่า “ดูเถิด เขาเรียกเอลียาห์”
15:36 และคนหนึ่งวิ่งไป และเติมฟองน้ำด้วยน้ำองุ่นเปรี้ยว และเสียบมันบนไม้อ้อ และส่งให้พระองค์ดื่ม โดยกล่าวว่า “ปล่อยไว้เถิด ให้พวกเราคอยดูว่า เอลียาห์จะมาปลดเขาลงหรือไม่”
15:37 และพระเยซูทรงร้องด้วยเสียงดัง และทรงปล่อยพระวิญญาณจิตขึ้นไป
15:38 และม่านแห่งพระวิหารก็ถูกฉีกออกเป็นสองท่อนตั้งแต่บนตลอดล่าง
15:39 และเมื่อนายร้อย ผู้ซึ่งยืนอยู่ตรงพระพักตร์พระองค์ เห็นว่าพระองค์ทรงร้องเช่นนั้น และทรงปล่อยพระวิญญาณจิตขึ้นไปแล้ว เขากล่าวว่า “แท้จริงท่านผู้นี้เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
15:40 และที่นั่นมีผู้หญิงหลายคนกำลังมองดูอยู่แต่ไกล ในท่ามกลางพวกนั้นมีมารีย์ชาวมักดาลา และมารีย์มารดาของยากอบน้อยและของโยเสส และสะโลเม
15:41 (ผู้ซึ่งเมื่อพระองค์ยังอยู่ในแคว้นกาลิลี ได้ติดตามพระองค์ และปรนนิบัติพระองค์ด้วย) และผู้หญิงอื่นอีกหลายคนซึ่งได้ขึ้นมาพร้อมกับพระองค์มายังกรุงเยรูซาเล็ม

พระเยซูทรงถูกฝังไว้ในอุโมงค์ฝังศพของโยเซฟ (มธ 27:57-61; ลก 23:50-56; ยน 19:38-42)
15:42 และบัดนี้เมื่อมาถึงเวลาเย็น เพราะว่าวันนั้นเป็นวันเตรียม คือเป็นวันก่อนวันสะบาโต
15:43 โยเซฟชาวบ้านอาริมาเธีย ซึ่งเป็นคนหนึ่งในพวกสมาชิกสภาที่น่านับถือ ผู้ซึ่งกำลังคอยท่าอาณาจักรของพระเจ้าด้วย ก็มา และเข้าไปหาปีลาตด้วยความกล้าหาญ และขอพระศพของพระเยซู
15:44 และปีลาตก็ประหลาดใจว่าพระองค์สิ้นพระชนม์แล้วหรือ และได้เรียกนายร้อยคนนั้นมาหาท่าน ท่านถามเขาว่า พระองค์ตายไปสักพักแล้วหรือ
15:45 และเมื่อท่านได้ทราบเรื่องนั้นจากนายร้อยแล้ว ท่านจึงมอบพระศพให้แก่โยเซฟ
15:46 และโยเซฟได้ซื้อผ้าป่านเนื้อละเอียด และนำพระองค์ลงมา และพันพระองค์ไว้ในผ้าป่านเนื้อละเอียด และวางพระองค์ไว้ในอุโมงค์ฝังศพซึ่งได้สกัดไว้ในศิลา และได้กลิ้งหินก้อนหนึ่งปิดปากอุโมงค์ไว้
15:47 และมารีย์ชาวมักดาลา และมารีย์มารดาของโยเสส ได้เห็นสถานที่ที่วางพระศพพระองค์ไว้

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope