กลับหน้าแรก / Main Menu

 

อิสยาห์ 63 / Isaiah 63

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24] [25] [26] [27] [28] [29] [30] [31] [32] [33] [34] [35] [36] [37] [38] [39] [40] [41] [42] [43] [44] [45] [46] [47] [48] [49] [50] [51] [52] [53] [54] [55] [56] [57] [58] [59] [60] [61] [62] [63] [64] [65] [66]

บ่อย่ำองุ่นแห่งพระพิโรธของพระเจ้า (อสย 2:10-22; วว 19:11-21)
63:1 นี่ใครหนอที่มาจากเมืองเอโดม พร้อมกับบรรดาเสื้อผ้าย้อมสีจากเมืองโบสราห์ พระองค์ผู้ซึ่งเปี่ยมสง่าราศีในเครื่องทรงของพระองค์ เสด็จมาในความยิ่งใหญ่แห่งอานุภาพของพระองค์ “นี่เราเองที่กล่าวในความชอบธรรม ผู้มีอานุภาพที่จะช่วยให้รอด”

Winepress of God's Wrath (Isa. 2:10-22; Rev. 19:11-21)
63:1 Who is this that cometh from Edom, with dyed garments from Bozrah? this that is glorious in his apparel, travelling in the greatness of his strength? I that speak in righteousness, mighty to save.

63:2 ทำไมพระองค์ทรงสวมเครื่องทรงของพระองค์ที่เป็นสีแดง และเสื้อผ้าทั้งหลายของพระองค์เหมือนกับคนที่ย่ำในบ่อย่ำองุ่น

63:2 Wherefore art thou red in thine apparel, and thy garments like him that treadeth in the winefat?

63:3 “เราได้ย่ำบ่อองุ่นแต่ลำพัง และจากประชากรนั้นไม่ได้มีใครอยู่กับเราเลย เพราะเราจะย่ำพวกเขาในความโกรธของเรา และเหยียบพวกเขาในความเกรี้ยวกราดของเรา และโลหิตของพวกเขาจะพรมอยู่บนเสื้อผ้าทั้งหลายของเรา และเราจะทำให้เสื้อผ้าของเราเปื้อนหมด

63:3 I have trodden the winepress alone; and of the people there was none with me: for I will tread them in mine anger, and trample them in my fury; and their blood shall be sprinkled upon my garments, and I will stain all my raiment.

63:4 เพราะวันแห่งการแก้แค้นอยู่ในใจของเรา และปีแห่งผู้ได้รับการไถ่ของเรามาถึงแล้ว

63:4 For the day of vengeance is in mine heart, and the year of my redeemed is come.

63:5 และเราได้มองดู และไม่มีผู้ใดที่จะช่วยเหลือ และเราประหลาดใจที่ไม่มีผู้ใดที่จะชูไว้ เพราะฉะนั้นแขนของเราเองจึงได้นำความรอดมาให้เรา และความเกรี้ยวกราดของเรา มันได้ชูเราไว้

63:5 And I looked, and there was none to help; and I wondered that there was none to uphold: therefore mine own arm brought salvation unto me; and my fury, it upheld me.

63:6 เราจะย่ำผู้คนเหล่านั้นลงในความโกรธของเรา และทำให้พวกเขาเมาในความเกรี้ยวกราดของเรา และเราจะทำให้กำลังของพวกเขาถดถอยลงบนแผ่นดินโลก”

63:6 And I will tread down the people in mine anger, and make them drunk in my fury, and I will bring down their strength to the earth.

พระเจ้าทรงดูแลรักษาอิสราเอล
63:7 ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงบรรดาความรักกรุณาของพระเยโฮวาห์ และการสรรเสริญทั้งหลายของพระเยโฮวาห์ ตามสิ่งสารพัดที่พระเยโฮวาห์ได้ประทานแก่พวกเรา และความดีอันยิ่งใหญ่ต่อวงศ์วานแห่งอิสราเอล ซึ่งพระองค์ได้ประทานแก่พวกเขาตามบรรดาพระเมตตาของพระองค์ และตามความอุดมสมบูรณ์แห่งความรักกรุณาทั้งหลายของพระองค์

God's Loving Care of Israel
63:7 I will mention the lovingkindnesses of the LORD, and the praises of the LORD, according to all that the LORD hath bestowed on us, and the great goodness toward the house of Israel, which he hath bestowed on them according to his mercies, and according to the multitude of his lovingkindnesses.

63:8 เพราะพระองค์ได้ตรัสว่า “แน่ทีเดียวเขาทั้งหลายเป็นประชากรของเรา บุตรทั้งหลายที่จะไม่พูดมุสา” ดังนั้นพระองค์จึงได้ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของพวกเขา

63:8 For he said, Surely they are my people, children that will not lie: so he was their Saviour.

63:9 ในความทุกข์ใจทั้งสิ้นของพวกเขาพระองค์ได้ทรงทุกข์พระทัย และทูตสวรรค์แห่งการสถิตอยู่ด้วยของพระองค์ได้ช่วยเขาทั้งหลายให้รอด ในความรักของพระองค์และในความสงสารของพระองค์ พระองค์ทรงไถ่พวกเขาไว้ และพระองค์ทรงยกพวกเขาขึ้น และอุ้มพวกเขาไปตลอดสมัยเก่าก่อน

63:9 In all their affliction he was afflicted, and the angel of his presence saved them: in his love and in his pity he redeemed them; and he bare them, and carried them all the days of old.

63:10 แต่เขาทั้งหลายได้กบฏ และทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์เสียพระทัย ฉะนั้นพระองค์จึงทรงหันไปเป็นศัตรูของเขาทั้งหลาย และพระองค์ทรงต่อสู้กับเขาทั้งหลาย

63:10 But they rebelled, and vexed his holy Spirit: therefore he was turned to be their enemy, and he fought against them.

63:11 แล้วพระองค์ทรงระลึกถึงสมัยเก่าก่อน ถึงโมเสส และประชากรของพระองค์ โดยตรัสว่า “พระองค์ผู้ได้ทรงนำเขาทั้งหลายขึ้นมาจากทะเลพร้อมกับผู้เลี้ยงแห่งฝูงแกะของพระองค์อยู่ที่ไหน พระองค์ผู้ได้บรรจุพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ภายในเขาทรงอยู่ที่ไหน

63:11 Then he remembered the days of old, Moses, and his people, saying, Where is he that brought them up out of the sea with the shepherd of his flock? where is he that put his holy Spirit within him?

63:12 ผู้ได้นำเขาทั้งหลายโดยมือขวาของโมเสสด้วยพระกรอันรุ่งโรจน์ของพระองค์ โดยแยกน้ำออกต่อหน้าเขาทั้งหลาย เพื่อสร้างพระนามนิรันดร์ให้พระองค์เอง

63:12 That led them by the right hand of Moses with his glorious arm, dividing the water before them, to make himself an everlasting name?

63:13 ผู้ได้นำเขาทั้งหลายผ่านเข้าในที่ลึกนั้น เหมือนม้าในถิ่นทุรกันดาร เพื่อเขาทั้งหลายจะไม่สะดุด

63:13 That led them through the deep, as an horse in the wilderness, that they should not stumble?

63:14 สัตว์ป่าตัวหนึ่งลงไปยังหุบเขาฉันใด พระวิญญาณของพระเยโฮวาห์ก็ทำให้เขาหยุดพักฉันนั้น” ฉะนั้นพระองค์จึงได้ทรงนำประชากรของพระองค์ เพื่อจะสร้างพระนามอันรุ่งโรจน์แด่พระองค์เอง

63:14 As a beast goeth down into the valley, the Spirit of the LORD caused him to rest: so didst thou lead thy people, to make thyself a glorious name.

63:15 ขอทอดพระเนตรลงมาจากฟ้าสวรรค์ และทรงมองดูจากที่อยู่อาศัยแห่งความบริสุทธิ์ของพระองค์และแห่งสง่าราศีของพระองค์ ความกระตือรือร้นของพระองค์และอานุภาพของพระองค์อยู่ที่ไหน การส่งเสียงแห่งพระทัยกรุณาของพระองค์และพระเมตตาของพระองค์ต่อข้าพระองค์อยู่ที่ไหน สิ่งเหล่านั้นถูกยึดไว้แล้วหรือ

63:15 Look down from heaven, and behold from the habitation of thy holiness and of thy glory: where is thy zeal and thy strength, the sounding of thy bowels and of thy mercies toward me? are they restrained?

63:16 ไม่มีข้อสงสัยเลยว่า พระองค์ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ถึงแม้ว่าอับราฮัมไม่ทราบเกี่ยวกับข้าพระองค์ทั้งหลาย และอิสราเอลไม่ยอมรับข้าพระองค์ทั้งหลาย พระองค์ โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ทรงเป็นพระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระผู้ไถ่ของข้าพระองค์ทั้งหลาย พระนามของพระองค์ดำรงอยู่ตั้งแต่นิรันดร์กาล

63:16 Doubtless thou art our father, though Abraham be ignorant of us, and Israel acknowledge us not: thou, O LORD, art our father, our redeemer; thy name is from everlasting.

63:17 โอ ข้าแต่พระเยโฮวาห์ ทำไมพระองค์ทรงกระทำให้ข้าพระองค์ทั้งหลายหลงผิดไปจากทางทั้งหลายของพระองค์ และกระทำใจของข้าพระองค์ทั้งหลายให้แข็งกระด้างจากความยำเกรงพระองค์ ขอทรงกลับมาเพื่อเห็นแก่บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ คือเผ่าทั้งหลายแห่งมรดกของพระองค์

63:17 O LORD, why hast thou made us to err from thy ways, and hardened our heart from thy fear? Return for thy servants' sake, the tribes of thine inheritance.

63:18 ประชากรแห่งความบริสุทธิ์ของพระองค์ได้ถือครองมรดกนั้นแค่ประเดี๋ยวหนึ่ง บรรดาปฏิปักษ์ของข้าพระองค์ทั้งหลายได้เหยียบย่ำสถานบริสุทธิ์ของพระองค์ลง

63:18 The people of thy holiness have possessed it but a little while: our adversaries have trodden down thy sanctuary.

63:19 ข้าพระองค์ทั้งหลายเป็นของพระองค์ พระองค์ไม่เคยครอบครองเหนือพวกเขาเลย พวกเขาไม่ได้ถูกเรียกโดยพระนามของพระองค์

63:19 We are thine: thou never barest rule over them; they were not called by thy name.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope