กลับหน้าแรก / Main Menu

 

กาลาเทีย 3 / Galatians 3

[1] [2] [3] [4] [5] [6]

ได้รับพระวิญญาณบริสุทธิ์โดยความเชื่อ
3:1 โอ ชาวกาลาเทียคนโง่เขลา ใครได้สะกดดวงจิตของพวกท่านเพื่อพวกท่านจะไม่เชื่อฟังความจริง ซึ่งต่อหน้าต่อตาของพวกท่านพระเยซูคริสต์ปรากฏอยู่อย่างชัดเจนแล้ว โดยทรงถูกตรึงไว้ท่ามกลางพวกท่าน

The Holy Spirit Comes by Faith
3:1 O foolish Galatians, who hath bewitched you, that ye should not obey the truth, before whose eyes Jesus Christ hath been evidently set forth, crucified among you?

3:2 สิ่งนี้สิ่งเดียวข้าพเจ้าใคร่เรียนรู้จากพวกท่านว่า พวกท่านได้รับพระวิญญาณโดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติหรือ หรือโดยการฟังแห่งความเชื่อ

3:2 This only would I learn of you, Received ye the Spirit by the works of the law, or by the hearing of faith?

3:3 พวกท่านโง่เขลาถึงเพียงนั้นเชียวหรือ เมื่อเริ่มต้นในพระวิญญาณแล้ว บัดนี้พวกท่านจะให้สำเร็จโดยเนื้อหนังหรือ

3:3 Are ye so foolish? having begun in the Spirit, are ye now made perfect by the flesh?

3:4 พวกท่านได้ทนทุกข์หลายสิ่งเหลือเกินโดยไร้ประโยชน์หรือ ถ้ามันเป็นการไร้ประโยชน์จริง ๆ

3:4 Have ye suffered so many things in vain? if it be yet in vain.

3:5 เหตุฉะนั้นพระองค์ผู้ประทานพระวิญญาณแก่พวกท่าน และทรงกระทำการอัศจรรย์ต่าง ๆ ท่ามกลางพวกท่าน พระองค์ทรงกระทำการนั้นโดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติหรือ หรือโดยการฟังแห่งความเชื่อ

3:5 He therefore that ministereth to you the Spirit, and worketh miracles among you, doeth he it by the works of the law, or by the hearing of faith?

บุตรฝ่ายจิตวิญญาณของอับราฮัม
3:6 เหมือนกับที่อับราฮัม ‘ได้เชื่อพระเจ้า’ และ ‘ความเชื่อนั้นทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน’

Abraham's Spiritual Children
3:6 Even as Abraham believed God, and it was accounted to him for righteousness.

3:7 เหตุฉะนั้นพวกท่านจงรู้เถิดว่า บรรดาคนที่อยู่ฝ่ายความเชื่อ คนเดียวกันนั้นเองเป็นบุตรทั้งหลายของอับราฮัม

3:7 Know ye therefore that they which are of faith, the same are the children of Abraham.

3:8 และพระคัมภีร์นั้นซึ่งรู้ล่วงหน้าว่า พระเจ้าจะทรงให้พวกคนต่างชาติเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ ได้ประกาศข่าวประเสริฐแก่อับราฮัมล่วงหน้า โดยกล่าวว่า ‘ในตัวเจ้าประชาชาติทั้งสิ้นจะได้รับพระพร’

3:8 And the scripture, foreseeing that God would justify the heathen through faith, preached before the gospel unto Abraham, saying, In thee shall all nations be blessed.

3:9 ดังนั้นบรรดาคนที่อยู่ฝ่ายความเชื่อจึงได้รับพระพรร่วมกับอับราฮัมผู้เปี่ยมด้วยความเชื่อ

3:9 So then they which be of faith are blessed with faithful Abraham.

ผู้ที่พึ่งพระราชบัญญัติก็ถูกสาปแช่ง
3:10 เพราะว่าคนทั้งหลายซึ่งอยู่ฝ่ายการกระทำแห่งพระราชบัญญัติก็อยู่ใต้การสาปแช่ง เพราะมีเขียนไว้แล้วว่า ‘ทุกคนที่ไม่ได้กระทำตามทุกข้อความซึ่งเขียนไว้ในหนังสือแห่งพระราชบัญญัติต่อไปก็ต้องถูกสาปแช่ง’

One Under the Law Is Accursed
3:10 For as many as are of the works of the law are under the curse: for it is written, Cursed is every one that continueth not in all things which are written in the book of the law to do them.

3:11 แต่ที่ว่าไม่มีมนุษย์คนใดเป็นผู้ชอบธรรมโดยพระราชบัญญัติในสายพระเนตรของพระเจ้านั้นก็เป็นที่ประจักษ์ชัดอยู่แล้ว เพราะว่า ‘คนชอบธรรมจะมีชีวิตดำรงอยู่โดยความเชื่อ’

3:11 But that no man is justified by the law in the sight of God, it is evident: for, The just shall live by faith.

3:12 และพระราชบัญญัติไม่ได้อยู่ฝ่ายความเชื่อ แต่ ‘คน ๆ นั้นที่กระทำสิ่งเหล่านั้นจะมีชีวิตดำรงอยู่ในสิ่งเหล่านั้น’

3:12 And the law is not of faith: but, The man that doeth them shall live in them.

พระคริสต์ได้ทรงไถ่พวกเราจากการสาปแช่งแห่งพระราชบัญญัติ
3:13 พระคริสต์ทรงไถ่พวกเราให้พ้นจากการสาปแช่งแห่งพระราชบัญญัติแล้ว โดยทรงยอมถูกสาปแช่งเพื่อพวกเรา เพราะมีเขียนไว้แล้วว่า ‘ทุกคนที่ถูกแขวนไว้บนต้นไม้ก็ถูกสาปแช่ง’

Christ Redeemed Us from the Law Curse
3:13 Christ hath redeemed us from the curse of the law, being made a curse for us: for it is written, Cursed is every one that hangeth on a tree:

3:14 เพื่อพระพรของอับราฮัมจะได้มาถึงคนต่างชาติทั้งหลายโดยทางพระเยซูคริสต์ เพื่อพวกเราจะได้รับพระสัญญาของพระวิญญาณโดยความเชื่อ

3:14 That the blessing of Abraham might come on the Gentiles through Jesus Christ; that we might receive the promise of the Spirit through faith.

3:15 พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าขอพูดตามอย่างมนุษย์ ถึงแม้ว่าเป็นเพียงแต่คำสัญญาของมนุษย์ แต่ถ้าคำสัญญานั้นได้รับการรับรองแล้ว ไม่มีมนุษย์คนใดจะล้มเลิกหรือเพิ่มเติมเข้ากับคำสัญญานั้นอีกได้

3:15 Brethren, I speak after the manner of men; Though it be but a man's covenant, yet if it be confirmed, no man disannulleth, or addeth thereto.

3:16 บัดนี้ บรรดาพระสัญญาได้ประทานไว้แก่อับราฮัมและเชื้อสายของท่าน พระองค์ไม่ได้ตรัสว่า ‘และแก่เชื้อสายทั้งหลาย’ เหมือนอย่างกับว่าแก่คนมากคน แต่เหมือนกับว่าแก่คนผู้เดียว ‘และแก่เชื้อสายของท่าน’ ซึ่งเป็นพระคริสต์

3:16 Now to Abraham and his seed were the promises made. He saith not, And to seeds, as of many; but as of one, And to thy seed, which is Christ.

3:17 แต่ข้าพเจ้าว่าอย่างนี้ว่า พันธสัญญาซึ่งได้รับการรับรองแต่ก่อนโดยพระเจ้าในพระคริสต์ พระราชบัญญัติซึ่งมาภายหลังเป็นเวลาสี่ร้อยสามสิบปีนั้นไม่สามารถทำให้พันธสัญญานั้นยกเลิก เพื่อทำให้พระสัญญานั้นไร้ผลได้

3:17 And this I say, that the covenant, that was confirmed before of God in Christ, the law, which was four hundred and thirty years after, cannot disannul, that it should make the promise of none effect.

3:18 เพราะว่าถ้าการรับมรดกอยู่ฝ่ายพระราชบัญญัติ การรับมรดกนั้นก็ไม่ได้อยู่ฝ่ายพระสัญญาอีกต่อไป แต่พระเจ้าโปรดประทานมรดกนั้นให้แก่อับราฮัมแล้วโดยพระสัญญา

3:18 For if the inheritance be of the law, it is no more of promise: but God gave it to Abraham by promise.

พระราชบัญญัติเป็นครูซึ่งนำพวกเราซึ่งเป็นคนบาปให้มาถึงพระคริสต์
3:19 ดังนั้นพระราชบัญญัติมีจุดประสงค์อะไรเล่า พระราชบัญญัติได้ถูกเพิ่มเข้ามาก็เพราะเหตุบรรดาการละเมิด จนกว่าเชื้อสายที่ได้รับพระสัญญานั้นจะมาถึง และพระราชบัญญัตินั้นได้รับการแต่งตั้งโดยพวกทูตสวรรค์ในมือของคนกลางคนหนึ่ง

The Law a Schoolmaster to Bring Us to Christ as Condemned Sinners
3:19 Wherefore then serveth the law? It was added because of transgressions, till the seed should come to whom the promise was made; and it was ordained by angels in the hand of a mediator.

3:20 บัดนี้ คนกลางก็ไม่ได้เป็นคนกลางของฝ่ายเดียว แต่พระเจ้านั้นทรงเป็นองค์เดียว

3:20 Now a mediator is not a mediator of one, but God is one.

3:21 ดังนั้น พระราชบัญญัติจึงขัดแย้งกับพระสัญญาทั้งหลายของพระเจ้าหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย เพราะว่าถ้าเคยมีพระราชบัญญัติอันหนึ่งที่สามารถให้ชีวิตได้ ความชอบธรรมก็คงจะเป็นมาโดยพระราชบัญญัตินั้นไปแล้วจริง ๆ

3:21 Is the law then against the promises of God? God forbid: for if there had been a law given which could have given life, verily righteousness should have been by the law.

3:22 แต่พระคัมภีร์ได้บ่งว่า ทุกคนอยู่ใต้บาป เพื่อพระสัญญาโดยความเชื่อแห่งพระเยซูคริสต์จะได้ถูกประทานให้แก่คนทั้งหลายที่เชื่อ

3:22 But the scripture hath concluded all under sin, that the promise by faith of Jesus Christ might be given to them that believe.

3:23 แต่ก่อนที่ความเชื่อได้มาถึง พวกเราเคยถูกกักตัวไว้ใต้พระราชบัญญัติ ถูกปิดไว้จนกว่าจะถึงความเชื่อนั้นซึ่งจะถูกเปิดเผยในภายหลัง

3:23 But before faith came, we were kept under the law, shut up unto the faith which should afterwards be revealed.

3:24 เพราะฉะนั้น พระราชบัญญัติจึงเคยเป็นครูของพวกเราเพื่อนำพวกเรามาถึงพระคริสต์ เพื่อพวกเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อ

3:24 Wherefore the law was our schoolmaster to bring us unto Christ, that we might be justified by faith.

ทุกคนที่รับเชื่อก็เป็นบุตรของพระเจ้า
3:25 แต่หลังจากความเชื่อนั้นได้มาแล้ว พวกเราก็ไม่ได้อยู่ใต้อำนาจของครูคนหนึ่งอีกต่อไปแล้ว

All Believers Are Children of God
3:25 But after that faith is come, we are no longer under a schoolmaster.

3:26 เพราะว่าท่านทั้งหลายทุกคนเป็นลูกทั้งหลายของพระเจ้าโดยความเชื่อในพระเยซูคริสต์

3:26 For ye are all the children of God by faith in Christ Jesus.

3:27 เพราะว่าบรรดาคนในพวกท่านที่ได้รับบัพติศมาเข้าร่วมในพระคริสต์แล้ว ก็ได้สวมพระคริสต์ไว้

3:27 For as many of you as have been baptized into Christ have put on Christ.

3:28 ไม่มีทั้งยิวและกรีก ไม่มีทั้งทาสและไท ไม่มีทั้งชายและหญิง เพราะว่าท่านทั้งหลายทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในพระเยซูคริสต์

3:28 There is neither Jew nor Greek, there is neither bond nor free, there is neither male nor female: for ye are all one in Christ Jesus.

3:29 และถ้าท่านทั้งหลายเป็นของพระคริสต์แล้ว ท่านทั้งหลายก็เป็นเชื้อสายของอับราฮัม และเป็นทายาทตามพระสัญญานั้น

3:29 And if ye be Christ's, then are ye Abraham's seed, and heirs according to the promise.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope