กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

เนหะมีย์ 4

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13]

สันบาลลัทกับโทบีอาห์เยาะเย้ยพวกยิว
4:1 แต่ต่อมา เมื่อสันบาลลัทได้ยินว่าพวกเรากำลังก่อสร้างกำแพง เขาก็โกรธและเดือดดาลมาก และเยาะเย้ยพวกยิว
4:2 และเขาพูดต่อหน้าพี่น้องของเขาและกองทัพของสะมาเรีย และกล่าวว่า “พวกยิวที่อ่อนแอเหล่านี้ทำอะไรกัน พวกเขาจะทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้นหรือ พวกเขาจะถวายสัตวบูชาหรือ พวกเขาจะทำให้เสร็จในวันเดียวหรือ พวกเขาจะเอาหินทั้งหลายซึ่งถูกเผาจากกองขยะมาใช้อีกหรือ”
4:3 บัดนี้ โทบีอาห์คนอัมโมนอยู่ข้าง ๆ เขา และโทบีอาห์กล่าวว่า “แม้แต่สิ่งซึ่งพวกเขากำลังสร้างอยู่นั้น ถ้าสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่งวิ่งขึ้นไป มันก็จะพังกำแพงหินของพวกเขาลงมาเลยเชียว”

เนหะมีย์อธิษฐาน
4:4 “ขอทรงสดับฟัง โอ ข้าแต่พระเจ้าของพวกข้าพระองค์ เพราะพวกข้าพระองค์เป็นที่ถูกเหยียดหยาม และขอทรงหันการเยาะเย้ยของพวกเขาให้ตกบนศีรษะของพวกเขาเอง และขอทรงมอบพวกเขาไว้ให้เป็นเหยื่อในแผ่นดินแห่งการเป็นเชลยนั้น
4:5 และขออย่าทรงปกปิดความชั่วช้าของพวกเขาไว้ และขออย่าลบล้างบาปของพวกเขาต่อพระพักตร์พระองค์ เพราะพวกเขาได้ยั่วยุให้พระองค์กริ้วต่อหน้าบรรดาผู้ก่อสร้าง”
4:6 ดังนั้น พวกเราจึงสร้างกำแพงขึ้น และกำแพงทั้งสิ้นก็ต่อกันสูงครึ่งหนึ่งแล้ว เพราะประชากรมีใจที่จะทำงาน

การวางแผนร้าย เนหะมีย์จึงอธิษฐานต่อ
4:7 แต่ต่อมา เมื่อสันบาลลัท และโทบีอาห์ และชาวอาระเบีย และคนอัมโมน และชาวอัชโดดได้ยินว่า การซ่อมแซมกำแพงเยรูซาเล็มนั้นกำลังคืบหน้าต่อไป และกำลังปิดช่องโหว่ต่าง ๆ พวกเขาจึงโกรธมาก
4:8 และพวกเขาทุกคนสมคบคิดกันว่าจะมาและต่อสู้กับเยรูซาเล็ม และขัดขวางการก่อสร้างนั้น
4:9 แต่อย่างไรก็ตาม พวกเราได้ทำการอธิษฐานของพวกเราต่อพระเจ้าของพวกเรา และวางยามป้องกันพวกเขาทั้งกลางวันและกลางคืนเพราะเหตุพวกเขา

บรรดาศัตรูขู่เข็ญพวกยิว
4:10 และยูดาห์กล่าวว่า “เรี่ยวแรงของบรรดาคนที่ขนของก็กำลังทรุดลง และมีขยะอยู่มากนัก ดังนั้นพวกเราจึงไม่สามารถสร้างกำแพงได้”
4:11 และพวกปฏิปักษ์ของพวกเรากล่าวว่า “พวกเขาจะไม่รู้และไม่เห็นจนกว่าพวกเราจะเข้ามาท่ามกลางพวกเขา และฆ่าพวกเขาเสีย และทำให้งานนั้นยุติเสีย”
4:12 และต่อมา เมื่อพวกยิวซึ่งอาศัยอยู่ใกล้พวกเขามา พวกเขาได้บอกพวกเราตั้งสิบครั้งว่า “จากทุกหนทุกแห่งที่พวกท่านจะกลับมาหาพวกเรา พวกเขาจะยกมาต่อสู้กับพวกท่าน”
4:13 ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงตั้งประชากรไว้ในบรรดาส่วนที่ต่ำที่สุดข้างหลังกำแพง และบนที่สูงทั้งหลาย ตามครอบครัวต่าง ๆ ของพวกเขา พร้อมกับดาบทั้งหลายของพวกเขา หอกทั้งปวงของพวกเขา และเหล่าคันธนูของพวกเขา
4:14 และข้าพเจ้ามองดู และลุกขึ้น และกล่าวแก่พวกขุนนาง และแก่พวกหัวหน้า และแก่ประชากรที่เหลืออยู่ว่า “พวกท่านอย่ากลัวพวกเขาเลย จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ซึ่งใหญ่ยิ่งและน่าเกรงกลัว และจงต่อสู้เพื่อพี่น้องของพวกท่าน บรรดาบุตรชายของพวกท่าน และบุตรสาวทั้งหลายของพวกท่าน ภรรยาของพวกท่าน และบ้านทั้งหลายของพวกท่าน”
4:15 และต่อมา เมื่อบรรดาศัตรูของพวกเราได้ยินว่าพวกเราทราบเรื่องแล้ว และพระเจ้าได้ทรงทำให้แผนงานของพวกเขาสูญสิ้นไป พวกเราทุกคนก็กลับมายังกำแพง ถึงงานของตนทุกคน
4:16 และต่อมาตั้งแต่วันนั้นมา เหล่าผู้รับใช้ของข้าพเจ้าครึ่งหนึ่งทำการก่อสร้าง และอีกครึ่งหนึ่งของพวกเขาถือพวกหอก พวกโล่ และพวกคันธนู และพวกเสื้อเกราะ และพวกหัวหน้าหนุนหลังบรรดาวงศ์วานของยูดาห์
4:17 พวกเขาซึ่งก่อสร้างกำแพง และพวกเขาที่ขนของทั้งหลาย พร้อมกับบรรดาคนที่ยกของขึ้น ทุกคนมือหนึ่งของตนทำงาน และอีกมือหนึ่งถืออาวุธไว้
4:18 ด้วยว่าพวกผู้ก่อสร้าง ทุกคนมีดาบของตนคาดอยู่ที่สีข้างของตน และทำการก่อสร้าง และชายที่เป่าแตรก็อยู่ข้างข้าพเจ้า
4:19 และข้าพเจ้ากล่าวแก่พวกขุนนาง และแก่พวกหัวหน้า และแก่ประชากรที่เหลืออยู่ว่า “การงานก็ใหญ่โตและกระจายกันไปมาก และพวกเราแยกกันอยู่บนกำแพง ต่างคนก็อยู่ไกลจากกัน
4:20 ฉะนั้นพวกท่านได้ยินเสียงแตรที่ไหน พวกท่านจงวิ่งกรูกันไปหาพวกเราที่นั่น พระเจ้าของพวกเราจะทรงต่อสู้เพื่อพวกเรา”
4:21 ดังนั้นพวกเราจึงตรากตรำในงานนั้น และพวกเขาครึ่งหนึ่งถือหอกทั้งหลายตั้งแต่เช้ามืดจนดวงดาวขึ้น
4:22 เช่นกันในเวลานั้น ข้าพเจ้ากล่าวแก่ประชากรว่า “ขอให้ทุกคนพร้อมกับคนใช้ของเขาค้างคืนเสียภายในเยรูซาเล็ม เพื่อในเวลากลางคืนพวกเขาจะเป็นยามให้พวกเรา และทำงานในเวลากลางวัน”
4:23 ดังนั้นข้าพเจ้า หรือพี่น้องของข้าพเจ้า หรือพวกคนใช้ของข้าพเจ้า หรือพวกคนยามซึ่งติดตามข้าพเจ้าก็ดี ไม่มีใครในพวกเราถอดเครื่องแต่งกายของตนออก เว้นแต่ทุกคนถอดเครื่องแต่งกายออกเพื่อซักเท่านั้น

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope