กลับหน้าแรก / Main Menu

 

กาลาเทีย 2 / Galatians 2

[1] [2] [3] [4] [5] [6]

เปาโล บารนาบัส และทิตัสที่เยรูซาเล็ม
2:1 แล้วสิบสี่ปีต่อมา ข้าพเจ้าได้ขึ้นไปยังกรุงเยรูซาเล็มอีก พร้อมกับบารนาบัสและพาทิตัสไปกับข้าพเจ้าด้วย

Paul, Barnabas and Titus at Jerusalem
2:1 Then fourteen years after I went up again to Jerusalem with Barnabas, and took Titus with me also.

2:2 และข้าพเจ้าได้ขึ้นไปตามการเปิดเผย และได้ประกาศแก่พวกเขาถึงข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศอยู่ท่ามกลางพวกคนต่างชาติ แต่ประกาศเป็นส่วนตัวแก่คนทั้งหลายที่มีชื่อเสียง เกรงว่าโดยวิธีหนึ่งวิธีใดข้าพเจ้าอาจจะวิ่งหรือได้วิ่งแล้วอย่างไร้ประโยชน์

2:2 And I went up by revelation, and communicated unto them that gospel which I preach among the Gentiles, but privately to them which were of reputation, lest by any means I should run, or had run, in vain.

2:3 แต่ทิตัส ผู้ซึ่งอยู่กับข้าพเจ้า ซึ่งเป็นชาวกรีก ก็ไม่ได้ถูกบังคับให้เข้าสุหนัต

2:3 But neither Titus, who was with me, being a Greek, was compelled to be circumcised:

2:4 และเพราะเหตุพี่น้องจอมปลอมที่ถูกนำเข้ามา ผู้ซึ่งแอบเข้ามาอย่างลับ ๆ เพื่อจะสอดแนมดูเสรีภาพซึ่งพวกเรามีอยู่ในพระเยซูคริสต์ เพื่อพวกเขาจะได้เอาพวกเราไปเป็นทาส

2:4 And that because of false brethren unawares brought in, who came in privily to spy out our liberty which we have in Christ Jesus, that they might bring us into bondage:

2:5 ผู้ซึ่งพวกเราไม่ได้ยอมอ่อนข้อให้กับพวกเขาแม้สักชั่วโมงเดียว เพื่อความจริงของข่าวประเสริฐนั้นจะได้ดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายต่อไป

2:5 To whom we gave place by subjection, no, not for an hour; that the truth of the gospel might continue with you.

2:6 แต่ในพวกคนเหล่านี้ที่ดูเหมือนว่าเป็นคนสำคัญ (ไม่ว่าพวกเขาเคยเป็นอะไรมาก่อนก็ตาม ก็ไม่สำคัญอะไรสำหรับข้าพเจ้าเลย พระเจ้ามิได้ทรงเห็นแก่หน้าผู้ใด) ด้วยว่าคนเหล่านั้นที่ดูเหมือนว่าเป็นคนสำคัญ ไม่ได้เพิ่มเติมสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้แก่ข้าพเจ้าเลย

2:6 But of these who seemed to be somewhat, (whatsoever they were, it maketh no matter to me: God accepteth no man's person:) for they who seemed to be somewhat in conference added nothing to me:

2:7 แต่ตรงกันข้าม เมื่อพวกเขาเห็นแล้วว่า ข่าวประเสริฐแห่งคนเหล่านั้นที่ไม่ถือการเข้าสุหนัตได้ถูกมอบไว้แก่ข้าพเจ้า เช่นเดียวกับข่าวประเสริฐแห่งคนที่ถือการเข้าสุหนัตได้ถูกมอบไว้แก่เปโตร

2:7 But contrariwise, when they saw that the gospel of the uncircumcision was committed unto me, as the gospel of the circumcision was unto Peter;

2:8 (เพราะว่าพระองค์ผู้ได้ทรงกระทำกิจอย่างเกิดผลในตัวเปโตรให้เป็นอัครทูตของพวกที่ถือการเข้าสุหนัต พระองค์ผู้นั้นเองได้ทรงมีฤทธิ์มากในตัวข้าพเจ้าต่อคนต่างชาติ)

2:8 (For he that wrought effectually in Peter to the apostleship of the circumcision, the same was mighty in me toward the Gentiles:)

2:9 และเมื่อยากอบ เคฟาสและยอห์น ผู้ซึ่งดูเหมือนว่าเป็นเสาหลัก ได้รับรู้พระคุณซึ่งประทานแก่ข้าพเจ้าแล้ว พวกเขาได้ให้การจับมือขวาแห่งสามัคคีธรรมแก่ข้าพเจ้าและบารนาบัส เพื่อเราทั้งสองควรไปหาพวกคนต่างชาติ และท่านเหล่านั้นจะไปหาพวกที่ถือการเข้าสุหนัต

2:9 And when James, Cephas, and John, who seemed to be pillars, perceived the grace that was given unto me, they gave to me and Barnabas the right hands of fellowship; that we should go unto the heathen, and they unto the circumcision.

2:10 ท่านเหล่านั้นขอแต่เพียงแต่ให้เราทั้งสองนึกถึงคนยากจน ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกับที่ข้าพเจ้ากระตือรือร้นที่จะกระทำเช่นกัน

2:10 Only they would that we should remember the poor; the same which I also was forward to do.

เปาโลคัดค้านเปโตร
2:11 แต่เมื่อเปโตรมาถึงอันทิโอกแล้ว ข้าพเจ้าก็ได้คัดค้านท่านต่อหน้า เพราะว่าท่านสมควรถูกตำหนิ

Paul Withstood Peter
2:11 But when Peter was come to Antioch, I withstood him to the face, because he was to be blamed.

2:12 ด้วยว่าก่อนที่บางคนมาจากยากอบ ท่านได้กินอยู่ด้วยกันกับคนต่างชาติ แต่เมื่อคนพวกนั้นมาถึง ท่านก็ปลีกตัวออกและไปอยู่เสียต่างหาก เพราะกลัวพวกที่ถือการเข้าสุหนัต

2:12 For before that certain came from James, he did eat with the Gentiles: but when they were come, he withdrew and separated himself, fearing them which were of the circumcision.

2:13 และพวกยิวคนอื่น ๆ ก็ได้แสร้งทำตามท่านเช่นกัน จนถึงขนาดที่บารนาบัสก็หลงแสร้งทำตามคนเหล่านั้นไปด้วย

2:13 And the other Jews dissembled likewise with him; insomuch that Barnabas also was carried away with their dissimulation.

2:14 แต่เมื่อข้าพเจ้าเห็นว่าพวกเขาไม่ได้ดำเนินในความเที่ยงธรรมตามความจริงของข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงกล่าวแก่เปโตรต่อหน้าคนทั้งปวงว่า “ถ้าท่านเองซึ่งเป็นยิวคนหนึ่งประพฤติตามอย่างพวกคนต่างชาติ และมิใช่ตามอย่างพวกยิว เหตุไฉนท่านจึงบังคับคนต่างชาติให้ประพฤติตามอย่างพวกยิวเล่า”

2:14 But when I saw that they walked not uprightly according to the truth of the gospel, I said unto Peter before them all, If thou, being a Jew, livest after the manner of Gentiles, and not as do the Jews, why compellest thou the Gentiles to live as do the Jews?

ทุกคนจะเป็นคนชอบธรรมได้โดยความเชื่อในพระคริสต์
2:15 พวกเราผู้มีสัญชาติเป็นยิว และไม่ใช่คนบาปแห่งพวกคนต่างชาติ

All People Must Be Justified by Faith in Christ
2:15 We who are Jews by nature, and not sinners of the Gentiles,

2:16 ก็ยังรู้ว่าไม่มีผู้ใดเป็นคนชอบธรรมได้โดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติ แต่โดยความเชื่อแห่งพระเยซูคริสต์ คือพวกเราเองก็ได้เชื่อในพระเยซูคริสต์แล้ว เพื่อพวกเราจะได้เป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อแห่งพระคริสต์ และไม่ใช่โดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัติ เพราะว่าโดยการกระทำแห่งพระราชบัญญัตินั้น ‘ไม่มีเนื้อหนังใด ๆ จะเป็นคนชอบธรรมได้เลย’

2:16 Knowing that a man is not justified by the works of the law, but by the faith of Jesus Christ, even we have believed in Jesus Christ, that we might be justified by the faith of Christ, and not by the works of the law: for by the works of the law shall no flesh be justified.

2:17 แต่ถ้าในขณะที่พวกเรากำลังแสวงหาที่จะเป็นคนชอบธรรมโดยพระคริสต์นั้น พวกเราเองก็ยังปรากฏว่าเป็นคนบาปอยู่ พระคริสต์จึงทรงเป็นผู้รับใช้แห่งบาปหรือ ขอพระเจ้าอย่ายอมให้เป็นเช่นนั้นเลย

2:17 But if, while we seek to be justified by Christ, we ourselves also are found sinners, is therefore Christ the minister of sin? God forbid.

2:18 เพราะว่าถ้าข้าพเจ้าก่อสิ่งซึ่งข้าพเจ้าได้รื้อทำลายลงแล้วขึ้นมาอีก ข้าพเจ้าก็ทำให้ตัวเองเป็นผู้ละเมิด

2:18 For if I build again the things which I destroyed, I make myself a transgressor.

คนที่รับเชื่อนับว่าได้ตายจากพระราชบัญญัติแล้ว
2:19 เพราะว่าโดยพระราชบัญญัตินั้นข้าพเจ้าก็ตายต่อพระราชบัญญัติแล้ว เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่จำเพาะพระเจ้า

Counted Dead to the Law
2:19 For I through the law am dead to the law, that I might live unto God.

2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว แต่อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ใช่ข้าพเจ้าเอง แต่พระคริสต์ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำรงอยู่ในเนื้อหนังขณะนี้ ข้าพเจ้าก็ดำรงอยู่โดยความเชื่อแห่งพระบุตรของพระเจ้า ผู้ได้ทรงรักข้าพเจ้า และได้ทรงสละพระองค์เองเพื่อข้าพเจ้า

2:20 I am crucified with Christ: nevertheless I live; yet not I, but Christ liveth in me: and the life which I now live in the flesh I live by the faith of the Son of God, who loved me, and gave himself for me.

2:21 ข้าพเจ้าไม่ทำให้พระคุณของพระเจ้าเสียไป เพราะว่าถ้าความชอบธรรมมาโดยพระราชบัญญัติแล้ว พระคริสต์ก็ทรงสิ้นพระชนม์โดยเปล่าประโยชน์

2:21 I do not frustrate the grace of God: for if righteousness come by the law, then Christ is dead in vain.

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope