กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

2 ซามูเอล 6

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22] [23] [24]

ดาวิดทรงมีพระประสงค์อัญเชิญหีบของพระเจ้ามายังกรุงเยรูซาเล็ม
6:1 อีกครั้งหนึ่ง ดาวิดได้ทรงรวบรวมบรรดาคนอิสราเอลที่ถูกคัดเลือกแล้วได้สามหมื่นคน
6:2 และดาวิดทรงลุกขึ้น และไปกับประชากรทั้งสิ้นที่อยู่กับพระองค์จากบาอาเลแห่งยูดาห์ เพื่อจะทรงอัญเชิญหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากที่นั่น ซึ่งชื่อของหีบนั้นถูกเรียกตามพระนามของพระเยโฮวาห์จอมโยธาผู้ประทับระหว่างพวกเครูบ
6:3 และพวกเขาได้วางหีบของพระเจ้าไว้บนเกวียนใหม่เล่มหนึ่ง และอัญเชิญหีบออกมาจากบ้านของอาบีนาดับที่อยู่ในเมืองกิเบอาห์ และอุสซาห์กับอาหิโย บุตรชายทั้งสองของอาบีนาดับ เป็นผู้ขับเกวียนใหม่เล่มนั้น
6:4 และพวกเขาได้อัญเชิญหีบออกมาจากบ้านของอาบีนาดับซึ่งอยู่ที่เมืองกิเบอาห์ โดยไปพร้อมกับหีบของพระเจ้า และอาหิโยเดินนำหน้าหีบ
6:5 และดาวิดกับวงศ์วานของอิสราเอลทั้งสิ้นได้ร่าเริงกันอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ โดยใช้บรรดาเครื่องดนตรีทุกชนิดซึ่งทำด้วยไม้สนสามใบ คือบนพวกพิณเขาคู่ และบนพวกพิณใหญ่ และบนพวกรำมะนา และบนพวกกรับ และบนพวกฉาบ
6:6 และเมื่อพวกเขามาถึงลานนวดข้าวของนาโคน อุสซาห์ได้เหยียดมือของตนออกไปยังหีบของพระเจ้า และจับหีบนั้นไว้ เพราะพวกวัวตัวผู้เขย่าหีบนั้น
6:7 และพระพิโรธของพระเยโฮวาห์ได้พลุ่งขึ้นต่ออุสซาห์ และพระเจ้าทรงฆ่าเขาเสียที่นั่นเพราะความผิดพลาดของเขา และเขาได้สิ้นชีวิตที่นั่นข้างหีบของพระเจ้า
6:8 และดาวิดไม่พอพระทัย เพราะพระเยโฮวาห์ได้ทรงทลายออกมาเหนืออุสซาห์ และพระองค์ได้ทรงเรียกสถานที่นั้นว่า เปเรศอุสซาห์ จนถึงทุกวันนี้
6:9 และดาวิดทรงเกรงกลัวพระเยโฮวาห์วันนั้น และตรัสว่า “หีบของพระเยโฮวาห์จะมาถึงเราได้อย่างไร”
6:10 ดังนั้นดาวิดจึงไม่ยอมอัญเชิญหีบของพระเยโฮวาห์เข้ามายังพระองค์ในนครของดาวิด แต่ดาวิดได้อัญเชิญหีบนั้นไปไว้ในบ้านของโอเบดเอโดมชาวกัท
6:11 และหีบของพระเยโฮวาห์ก็ค้างอยู่ในบ้านของโอเบดเอโดมชาวกัทสามเดือน และพระเยโฮวาห์ได้ทรงอวยพรโอเบดเอโดมและครัวเรือนทั้งสิ้นของเขา

ดาวิดอัญเชิญหีบของพระเจ้ามายังกรุงเยรูซาเล็ม (1 พศด 15:25-29; 16:1)
6:12 และมีคนกราบทูลกษัตริย์ดาวิด โดยทูลว่า “พระเยโฮวาห์ได้ทรงอวยพรครอบครัวของโอเบดเอโดม และทุกสิ่งที่เป็นของเขา เพราะเหตุหีบของพระเจ้า” ดังนั้นดาวิดจึงเสด็จไปและอัญเชิญหีบของพระเจ้าขึ้นมาจากบ้านของโอเบดเอโดม เข้ามาในนครของดาวิดด้วยความชื่นบาน
6:13 และต่อมาเมื่อพวกคนที่หามหีบของพระเยโฮวาห์เดินไปได้หกก้าว ดาวิดได้ทรงถวายวัวตัวผู้หลายตัวกับลูกวัวอ้วนพีหลายตัว
6:14 และดาวิดได้ทรงเต้นรำถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ด้วยสุดกำลังของพระองค์ และดาวิดคาดเอวด้วยเอโฟดผ้าป่านอันหนึ่ง
6:15 ดังนั้นดาวิดและวงศ์วานของอิสราเอลทั้งสิ้นได้อัญเชิญหีบของพระเยโฮวาห์ขึ้นมาด้วยเสียงโห่ร้องและด้วยเสียงแตร
6:16 และขณะที่หีบของพระเยโฮวาห์เข้ามาในนครของดาวิด มีคาลราชธิดาของซาอูลได้มองผ่านช่องหน้าต่าง และเห็นกษัตริย์ดาวิดกระโดดโลดเต้นและรำถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และนางได้เหยียดหยามดาวิดในใจของนาง
6:17 และพวกเขาอัญเชิญหีบของพระเยโฮวาห์เข้ามา และตั้งหีบไว้ในที่สำหรับหีบนั้น ในท่ามกลางพลับพลาที่ดาวิดได้ทรงตั้งขึ้นไว้สำหรับหีบนั้น และดาวิดได้ทรงถวายบรรดาเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาทั้งหลายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
6:18 และทันทีที่ดาวิดได้ทรงกระทำการถวายบรรดาเครื่องเผาบูชาและเครื่องสันติบูชาทั้งหลายเสร็จสิ้นแล้ว พระองค์ได้ทรงอวยพรประชากรในพระนามของพระเยโฮวาห์จอมโยธา
6:19 และพระองค์ได้ทรงแจกท่ามกลางประชากรทั้งสิ้น คือท่ามกลางประชากรอิสราเอลทั้งหมด ทั้งผู้หญิงทั้งผู้ชายก็ได้เหมือนกัน ขนมปังคนละแผ่น และเนื้ออย่างดีคนละชิ้น และน้ำองุ่นคนละขวด ดังนั้นประชากรทั้งสิ้นได้กลับไปยังบ้านของตนทุกคน
6:20 แล้วดาวิดเสด็จกลับไปเพื่ออวยพรราชวงศ์ของพระองค์ และมีคาลราชธิดาของซาอูลได้ออกมาเพื่อพบกับดาวิด และทูลว่า “กษัตริย์แห่งอิสราเอลได้รับเกียรติยศอย่างยิ่งใหญ่ทีเดียววันนี้ ผู้ทรงถอดฉลองพระองค์ออกวันนี้ในสายตาของพวกสาวใช้ของพวกผู้รับใช้ของพระองค์ ดั่งคนหนึ่งในพวกคนไร้ค่าแก้ผ้าอย่างไร้ยางอาย”
6:21 และดาวิดตรัสกับมีคาลว่า “การนั้นได้ถวายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ผู้ได้ทรงเลือกเราไว้แทนเสด็จพ่อของเจ้า และแทนราชวงศ์ทั้งสิ้นของพระองค์ เพื่อจะทรงแต่งตั้งเราให้เป็นเจ้านายเหนือประชากรของพระเยโฮวาห์ คือเหนืออิสราเอล เพราะฉะนั้นเราจะร่าเริงต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์
6:22 และเราจะไร้ค่ายิ่งกว่านี้อีก และจะเป็นคนต่ำต้อยในสายตาของเราเอง และเกี่ยวกับพวกสาวใช้ที่เจ้าได้พูดถึงนั้น จากพวกนางเราจะได้รับเกียรติ”
6:23 เพราะฉะนั้นมีคาลราชธิดาของซาอูลจึงไม่มีบุตรจนถึงวันสิ้นชีพของนาง

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope