1 พงศ์กษัตริย์ 22 [1]
[2]
[3]
[4]
[5]
[6]
[7]
[8]
[9]
[10]
[11]
[12]
[13]
[14]
[15]
[16]
[17]
[18]
[19]
[20]
[21]
[22]
ประเทศซีเรียและอิสราเอลมีสันติกันอยู่สามปี
22:1 และพวกเขามีช่วงสามปีติดต่อกันโดยปราศจากสงครามระหว่างประเทศซีเรียกับประเทศอิสราเอล
เยโฮชาฟัทช่วยอาหับสู้รบกับซีเรีย
22:2 และต่อมาในปีที่สาม เยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ได้เสด็จลงมาเฝ้ากษัตริย์แห่งอิสราเอล
22:3 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสกับบรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ว่า พวกท่านทราบกันหรือไม่ว่าเมืองราโมทในกิเลอาดเป็นของพวกเรา และพวกเรายังนิ่งอยู่ และมิได้เอาเมืองนั้นออกมาจากมือของกษัตริย์แห่งซีเรีย
22:4 และพระองค์ตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า ท่านจะยกไปทำศึกที่ราโมทกิเลอาดกับข้าพเจ้าไหม และเยโฮชาฟัทตรัสกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า ข้าพเจ้าเป็นอย่างที่ท่านเป็น ประชากรของข้าพเจ้าก็เป็นอย่างประชากรของท่าน บรรดาม้าของข้าพเจ้าก็เป็นอย่างบรรดาม้าของท่าน
22:5 และเยโฮชาฟัทตรัสกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลว่า ขอสอบถามดู ข้าพเจ้าขอร้องท่าน พระวจนะของพระเยโฮวาห์วันนี้เถิด
พวกผู้พยากรณ์ของอาหับพยากรณ์เท็จ
22:6 แล้วกษัตริย์แห่งอิสราเอลได้รวบรวมพวกผู้พยากรณ์เข้าด้วยกัน ประมาณสี่ร้อยคน และตรัสกับพวกเขาว่า เราควรจะไปสู้รบกับราโมทกิเลอาดหรือ หรือเราควรจะยับยั้งไว้ก่อน และพวกเขาทูลว่า ขอเชิญเสด็จขึ้นไปเถิด เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของกษัตริย์
22:7 และเยโฮชาฟัททูลว่า ไม่มีผู้พยากรณ์ของพระเยโฮวาห์อยู่ที่นี่นอกจากนี้แล้วหรือ เพื่อพวกเราจะสอบถามจากเขา
22:8 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลเยโฮชาฟัทว่า ยังมีชายคนหนึ่ง คือมีคายาห์บุตรชายของอิมลาห์ ซึ่งพวกเราจะให้ทูลถามพระเยโฮวาห์ได้ แต่ข้าพเจ้าเกลียดชังเขา เพราะเขาไม่เคยพยากรณ์เรื่องดีเกี่ยวกับข้าพเจ้าเลย มีแต่เรื่องร้าย และเยโฮชาฟัททูลว่า ขอกษัตริย์อย่าตรัสดังนั้นเลย
22:9 แล้วกษัตริย์แห่งอิสราเอลได้ทรงเรียกมหาดเล็กคนหนึ่ง และตรัสว่า พามีคายาห์บุตรชายของอิมลาห์มาที่นี่เร็ว ๆ
22:10 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลและเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ต่างประทับบนพระที่นั่งของพระองค์เอง โดยทรงสวมเครื่องทรงทั้งหลายของพระองค์ ณ ช่องว่างในทางเข้าประตูเมืองสะมาเรีย และพวกผู้พยากรณ์ทั้งสิ้นได้พยากรณ์ถวายอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ทั้งสอง
22:11 และเศเดคียาห์บุตรชายของเคนาอะนาห์ได้ทำเขาสัตว์ด้วยเหล็กสำหรับตน และเขาทูลว่า พระเยโฮวาห์ตรัสดังนี้ว่า ด้วยเขาสัตว์เหล่านี้เจ้าจะผลักคนซีเรียไปจนกว่าเจ้าเผาผลาญพวกเขาเสียสิ้น
22:12 และผู้พยากรณ์เหล่านั้นทุกคนได้พยากรณ์อย่างนั้น โดยทูลว่า ขอเสด็จขึ้นไปราโมทกิเลอาด และเจริญรุ่งเรืองเถิด เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของกษัตริย์
มีคายาห์เป็นผู้พยากรณ์แท้
22:13 และผู้สื่อสารที่ได้ไปเพื่อเรียกมีคายาห์พูดกับท่าน โดยกล่าวว่า บัดนี้ ดูเถิด ถ้อยคำทั้งหลายของผู้พยากรณ์เหล่านั้นต่างพูดสิ่งที่ดีแก่กษัตริย์เป็นปากเดียวกัน ขอให้ถ้อยคำของท่าน ข้าพเจ้าขอร้องท่าน เป็นเหมือนอย่างถ้อยคำของคนหนึ่งในพวกนั้น และพูดสิ่งที่ดีเถิด
22:14 และมีคายาห์กล่าวว่า พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด พระเยโฮวาห์ตรัสกับข้าพเจ้าอย่างไร ข้าพเจ้าจะพูดอย่างนั้น
22:15 ดังนั้นท่านมาเฝ้ากษัตริย์ และกษัตริย์ตรัสกับท่านว่า มีคายาห์ พวกเราควรจะไปสู้รบกับราโมทกิเลอาดหรือ หรือพวกเราควรจะยับยั้งไว้ก่อน และท่านทูลตอบพระองค์ว่า ขอเชิญเสด็จขึ้นไปและเจริญรุ่งเรือง เพราะพระเยโฮวาห์จะทรงมอบเมืองนั้นไว้ในพระหัตถ์ของกษัตริย์
22:16 และกษัตริย์ตรัสกับท่านว่า เราจะต้องขอร้องเจ้ากี่ครั้งว่า เจ้าอย่าบอกเราสิ่งใดนอกจากสิ่งซึ่งเป็นความจริงในพระนามของพระเยโฮวาห์
22:17 และท่านทูลว่า ข้าพระองค์ได้เห็นคนอิสราเอลทั้งสิ้นกระจัดกระจายอยู่บนเนินเขาต่าง ๆ อย่างแกะที่ไม่มีผู้เลี้ยง และพระเยโฮวาห์ได้ตรัสว่า คนเหล่านี้ไม่มีนาย ให้พวกเขาทุกคนกลับไปยังบ้านของตนโดยสันติเถิด
22:18 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลทูลเยโฮชาฟัทว่า ข้าพเจ้าไม่ได้บอกท่านแล้วหรือว่า เขาจะไม่พยากรณ์เรื่องดีเกี่ยวกับข้าพเจ้าเลย มีแต่เรื่องร้าย
22:19 และมีคายาห์ทูลว่า ฉะนั้น ขอพระองค์สดับพระวจนะของพระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ได้เห็นพระเยโฮวาห์ประทับนั่งบนพระที่นั่งของพระองค์ และบรรดาบริวารแห่งสวรรค์ยืนข้าง ๆ พระองค์ ข้างขวาพระหัตถ์ของพระองค์และข้างซ้ายของพระองค์
22:20 และพระเยโฮวาห์ตรัสว่า ผู้ใดจะเกลี้ยกล่อมอาหับเพื่อเขาจะได้ขึ้นไปและล้มลงที่ราโมทกิเลอาด และตนหนึ่งได้ทูลอย่างนี้ และอีกตนหนึ่งได้ทูลอย่างนั้น
22:21 และมีวิญญาณตนหนึ่งออกมา และยืนเฝ้าต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ และทูลว่า ข้าพระองค์จะเกลี้ยกล่อมเขา
22:22 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับเขาว่า จะทำอย่างไร และเขาทูลว่า ข้าพระองค์จะออกไป และข้าพระองค์จะเป็นวิญญาณมุสาอยู่ในปากของผู้พยากรณ์ของเขาทุกคน และพระองค์ตรัสว่า เจ้าจะไปเกลี้ยกล่อมเขา และจะสำเร็จด้วย จงออกไปและทำเช่นนั้นเถิด
22:23 เพราะฉะนั้นบัดนี้ ดูเถิด พระเยโฮวาห์ได้ทรงใส่วิญญาณมุสาในปากของผู้พยากรณ์เหล่านี้ทั้งสิ้นของพระองค์ และพระเยโฮวาห์ได้ตรัสเรื่องร้ายเกี่ยวกับพระองค์
22:24 แต่เศเดคียาห์บุตรชายของเคนาอะนาห์ได้เข้ามาใกล้และตบมีคายาห์เข้าที่แก้ม และกล่าวว่า พระวิญญาณของพระเยโฮวาห์ได้เสด็จไปทางไหนจากข้าเพื่อพูดกับเจ้า
22:25 และมีคายาห์กล่าวว่า ดูเถิด เจ้าจะเห็นในวันนั้น เมื่อเจ้าจะเข้าไปในห้องชั้นในเพื่อซ่อนตัวเจ้าเอง
22:26 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสว่า จงจับมีคายาห์ และพาเขากลับไปยังอาโมนผู้ว่าราชการนครและยังโยอาชราชโอรสของกษัตริย์
22:27 และจงกล่าวว่า กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า เอาคนนี้จำไว้ในคุก และเลี้ยงเขาด้วยขนมปังแห่งความทุกข์และด้วยน้ำแห่งความทุกข์ จนกว่าเราจะกลับมาโดยสันติ
22:28 และมีคายาห์ทูลว่า ถ้าพระองค์เสด็จกลับมาโดยสันติ พระเยโฮวาห์ก็ไม่ได้ตรัสโดยข้าพระองค์ และท่านกล่าวว่า จงตั้งใจฟังเถิด โอ ประชากรทั้งหลายเอ๋ย พวกท่านทุกคน
การสู้รบที่ราโมทกิเลอาด อาหับสิ้นพระชนม์ (2 พศด 18:28-34)
22:29 ดังนั้นกษัตริย์แห่งอิสราเอลและเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์จึงเสด็จขึ้นไปยังราโมทกิเลอาด
22:30 และกษัตริย์แห่งอิสราเอลตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า ข้าพเจ้าจะปลอมตัวและเข้าทำศึก แต่ท่านจงสวมเครื่องทรงทั้งหลายของท่าน และกษัตริย์แห่งอิสราเอลได้ทรงปลอมพระองค์และเข้าทำศึก
22:31 แต่กษัตริย์แห่งซีเรียได้ทรงบัญชาผู้บัญชาการสามสิบสองคนของพระองค์ที่มีอำนาจควบคุมกองรถม้าศึกของพระองค์ โดยตรัสว่า อย่ารบกับทหารน้อยหรือใหญ่ เว้นแต่เฉพาะกับกษัตริย์แห่งอิสราเอลเท่านั้น
22:32 และต่อมาเมื่อเหล่าผู้บัญชาการกองรถม้าศึกเห็นเยโฮชาฟัทแล้ว พวกเขากล่าวว่า นั่นเป็นกษัตริย์แห่งอิสราเอลแน่แล้ว และพวกเขาได้หันไปเพื่อต่อสู้กับพระองค์ และเยโฮชาฟัทได้ทรงร้องขึ้น
22:33 และต่อมาเมื่อเหล่าผู้บัญชาการกองรถม้าศึกรับรู้ว่าไม่ใช่กษัตริย์แห่งอิสราเอล พวกเขาจึงหันกลับจากการไล่ตามพระองค์
22:34 และมีชายคนหนึ่งโก่งธนูยิงสุ่มไป และถูกกษัตริย์แห่งอิสราเอลเข้าระหว่างเกล็ดเกราะและแผ่นบังพระอุระ ดังนั้นพระองค์จึงตรัสกับคนขับรถม้าศึกของพระองค์ว่า หันมือของเจ้ากลับเถิด และพาเราออกไปจากกองทัพ เพราะเราบาดเจ็บแล้ว
22:35 และการสู้รบก็ดุเดือดขึ้นวันนั้น และกษัตริย์ถูกพยุงขึ้นไว้ในรถม้าศึกของพระองค์เผชิญหน้าคนซีเรีย และได้สิ้นพระชนม์ตอนเวลาเย็น และโลหิตได้ไหลออกจากบาดแผลนองท้องรถม้าศึก
22:36 และมีการประกาศตลอดทั่วกองทัพประมาณเวลาดวงอาทิตย์ตก โดยกล่าวว่า ทุกคนจงกลับไปยังนครของตน และทุกคนไปยังดินแดนของตน
22:37 ดังนั้นกษัตริย์จึงสิ้นพระชนม์ และถูกนำมายังกรุงสะมาเรีย และพวกเขาฝังกษัตริย์ไว้ในกรุงสะมาเรีย
22:38 และมีคนหนึ่งล้างรถม้าศึกในสระแห่งสะมาเรีย และพวกสุนัขได้เลียโลหิตของพระองค์จนเกลี้ยง และพวกเขาได้ล้างเครื่องอาวุธของพระองค์ ตามพระวจนะของพระเยโฮวาห์ซึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้แล้ว
22:39 บัดนี้พระราชกิจนอกนั้นของอาหับ และบรรดาสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทำ และพระราชวังงาช้างซึ่งพระองค์ทรงสร้างไว้ และบรรดานครที่พระองค์ได้ทรงสร้าง สิ่งเหล่านั้นถูกบันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งประเทศอิสราเอลมิใช่หรือ
อาหัสยาห์ขึ้นครอบครองแทนอาหับ
22:40 ดังนั้นอาหับได้ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และอาหัสยาห์ราชโอรสของพระองค์ขึ้นครอบครองแทนพระองค์
เยโฮชาฟัทขึ้นครอบครองเหนือยูดาห์ (2 พศด 17:1; 20:31)
22:41 และเยโฮชาฟัทราชโอรสของอาสาเริ่มครอบครองเหนือยูดาห์ในปีที่สี่แห่งรัชกาลของอาหับกษัตริย์แห่งอิสราเอล
22:42 เยโฮชาฟัทมีพระชนมายุสามสิบห้าพรรษาเมื่อพระองค์ทรงเริ่มครอบครอง และพระองค์ได้ทรงครอบครองยี่สิบห้าปีในกรุงเยรูซาเล็ม และพระนามของพระราชมารดาของพระองค์คือ อาซูบาห์ ธิดาของชิลหิ
22:43 และพระองค์ได้ดำเนินในทางทั้งสิ้นของอาสาราชบิดาของพระองค์ พระองค์ไม่ได้หันเหออกไปจากทางนั้น โดยทรงกระทำสิ่งซึ่งถูกต้องในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ แต่อย่างไรก็ตามสถานบูชาบนที่สูงทั้งหลายไม่ได้ถูกรื้อออกไปเสีย ด้วยว่าประชากรยังถวายและเผาเครื่องหอมในสถานบูชาบนที่สูงเหล่านั้น
22:44 และเยโฮชาฟัทได้ทรงกระทำสัญญาสันติภาพกับกษัตริย์แห่งอิสราเอล
22:45 บัดนี้พระราชกิจนอกนั้นของเยโฮชาฟัท และพลังอำนาจของพระองค์ที่พระองค์ทรงสำแดง และพระองค์ทรงกระทำสงครามอย่างไร สิ่งเหล่านั้นถูกบันทึกไว้ในหนังสือพงศาวดารของบรรดากษัตริย์แห่งประเทศยูดาห์มิใช่หรือ
22:46 และพวกรักร่วมเพศที่ยังเหลืออยู่ ผู้ซึ่งยังเหลืออยู่ในสมัยของอาสาราชบิดาของพระองค์นั้น พระองค์ได้ทรงกำจัดออกไปเสียจากแผ่นดิน
22:47 เวลานั้นไม่มีกษัตริย์องค์ใดในประเทศเอโดม ผู้ว่าราชการคนหนึ่งเป็นกษัตริย์
22:48 เยโฮชาฟัทได้ทรงทำเรือแห่งเมืองทารชิชหลายลำ เพื่อจะไปยังโอฟีร์เพื่อขนทองคำมา แต่เรือเหล่านั้นไปไม่ถึง เพราะเรือเหล่านั้นแตกเสียที่เอซีโอนเกเบอร์
22:49 แล้วอาหัสยาห์ราชโอรสของอาหับตรัสกับเยโฮชาฟัทว่า ขอให้พวกผู้รับใช้ของข้าพเจ้าไปกับพวกผู้รับใช้ของท่านในเรือเหล่านั้น แต่เยโฮชาฟัทไม่ทรงอนุญาต
เยโฮรัมขึ้นครอบครองแทนเยโฮชาฟัท
22:50 และเยโฮชาฟัทได้ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และทรงถูกฝังไว้กับบรรพบุรุษของพระองค์ในนครของดาวิดบรรพบุรุษของพระองค์ และเยโฮรัมราชโอรสของพระองค์ได้ขึ้นครอบครองแทนพระองค์
การครอบครองอันชั่วร้ายของอาหัสยาห์
22:51 อาหัสยาห์ราชโอรสของอาหับทรงเริ่มครอบครองเหนืออิสราเอลในกรุงสะมาเรียในปีที่สิบเจ็ดแห่งรัชกาลของเยโฮชาฟัทกษัตริย์แห่งยูดาห์ และได้ทรงครอบครองสองปีเหนืออิสราเอล
22:52 และพระองค์ได้ทรงกระทำความชั่วร้ายในสายพระเนตรของพระเยโฮวาห์ และได้ดำเนินในทางแห่งราชบิดาของพระองค์ และในทางแห่งพระราชมารดาของพระองค์ และในทางของเยโรโบอัมบุตรชายของเนบัท ผู้ที่ได้กระทำให้อิสราเอลทำบาป
22:53 ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงปรนนิบัติพระบาอัล และนมัสการพระนั้น และได้ทรงยั่วยุพระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งอิสราเอลให้ทรงกริ้ว ตามทุกสิ่งที่ราชบิดาของพระองค์ได้ทรงกระทำ
พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version
© 2006 Philip Pope