กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

1 พงศ์กษัตริย์ 2

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16] [17] [18] [19] [20] [21] [22]

ดาวิดทรงสั่งสอนซาโลมอน
2:1 บัดนี้วันเหล่านั้นของดาวิดใกล้เข้ามาแล้วที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ และพระองค์ทรงกำชับซาโลมอนราชโอรสของพระองค์ โดยตรัสว่า
2:2 “เรากำลังจะไปตามทางของแผ่นดินโลกทั้งสิ้นแล้ว ฉะนั้นเจ้าจงเข้มแข็ง และสำแดงตัวของเจ้าให้เป็นลูกผู้ชาย
2:3 และจงรักษาคำกำชับของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า เพื่อจะดำเนินในพระมรรคาทั้งหลายของพระองค์ เพื่อรักษาบรรดากฎเกณฑ์ของพระองค์ และเหล่าพระบัญญัติของพระองค์ และบรรดาคำตัดสินของพระองค์ และพระโอวาททั้งหลายของพระองค์ ตามที่ได้จารึกไว้ในพระราชบัญญัติของโมเสส เพื่อเจ้าจะได้จำเริญในการทั้งปวงที่เจ้ากระทำ และในที่ใด ๆ ก็ตามที่เจ้าหันตัวเจ้าไป
2:4 เพื่อพระเยโฮวาห์จะทรงทำให้พระวจนะของพระองค์ดำรงอยู่ต่อไป ซึ่งพระองค์ตรัสไว้เกี่ยวกับเรา โดยตรัสว่า ‘ถ้าลูกหลานทั้งหลายของเจ้าระมัดระวังในวิถีทางของพวกเขา ที่จะดำเนินต่อหน้าเราในความจริงด้วยสุดใจของพวกเขา และด้วยสุดจิตของพวกเขา (พระองค์ตรัสว่า) ราชวงศ์ของเจ้าจะไม่ขาดชายที่จะนั่งบนพระที่นั่งของอิสราเอล’
2:5 ยิ่งกว่านั้นเจ้าก็รู้อยู่ด้วยว่า โยอาบบุตรชายของเศรุยาห์ได้กระทำอะไรแก่เรา และว่าเขาได้กระทำประการใดแก่ผู้บัญชาการทั้งสองแห่งกองทัพของอิสราเอล คือแก่อับเนอร์บุตรชายของเนอร์ และแก่อามาสาบุตรชายของเยเธอร์ ผู้ซึ่งเขาได้ฆ่าเสีย และทำให้โลหิตแห่งยามสงครามไหลในยามสันติ และได้วางโลหิตแห่งยามสงครามลงบนเข็มขัดที่อยู่รอบเอวของเขา และในรองเท้าที่ถูกสวมใส่บนเท้าของเขา
2:6 เพราะฉะนั้นเจ้าจงกระทำตามสติปัญญาของเจ้า และอย่าปล่อยให้ศีรษะหงอกของเขาลงไปสู่แดนคนตายอย่างสงบสุข
2:7 แต่จงแสดงความกรุณาต่อบุตรชายทั้งหลายของบารซิลลัยคนกิเลอาด และจงยอมให้พวกเขาอยู่กับคนเหล่านั้นที่รับประทานที่โต๊ะของเจ้า เพราะว่าพวกเขาได้มาหาเราเช่นนั้น เมื่อเราได้หนีไปเพราะเหตุอับซาโลมพี่ชายของเจ้านั้น
2:8 และดูเถิด ชิเมอีบุตรชายของเกราคนเบนยามินชาวบ้านบาฮูริมอยู่กับเจ้า ผู้ซึ่งได้แช่งด่าเราด้วยคำแช่งด่าอย่างร้ายกาจในวันที่เราไปยังมาหะนาอิม แต่เขาได้ลงมาต้อนรับเราที่แม่น้ำจอร์แดน และเราได้ปฏิญาณกับเขาโดยพระเยโฮวาห์ โดยกล่าวว่า ‘เราจะไม่ประหารชีวิตเจ้าด้วยดาบ’
2:9 เพราะฉะนั้นบัดนี้ เจ้าอย่าถือว่าเขาไม่มีความผิด เพราะเจ้าเป็นคนมีสติปัญญา และทราบว่าเจ้าควรจะกระทำประการใดแก่เขา แต่เจ้าจงนำศีรษะหงอกของเขาลงไปสู่แดนคนตายพร้อมด้วยโลหิต”

ดาวิดสิ้นพระชนม์ ซาโลมอนขึ้นครอบครอง (1 พศด 29:23-30)
2:10 ดังนั้นดาวิดได้ทรงล่วงหลับไปอยู่กับบรรพบุรุษของพระองค์ และทรงถูกฝังไว้ในนครของดาวิด
2:11 และวันทั้งหลายที่ดาวิดทรงครอบครองอยู่เหนืออิสราเอลนั้นเท่ากับสี่สิบปี พระองค์ได้ทรงครอบครองอยู่ในเฮโบรนเจ็ดปี และพระองค์ได้ทรงครอบครองอยู่ในเยรูซาเล็มสามสิบสามปี
2:12 แล้วซาโลมอนได้ประทับบนพระที่นั่งของดาวิดราชบิดาของพระองค์ และราชอาณาจักรของพระองค์ได้รับการสถาปนาอย่างใหญ่หลวง

อาโดนียาห์ถูกประหารชีวิต
2:13 และอาโดนียาห์โอรสของพระนางฮักกีทมาเข้าเฝ้าพระนางบัทเชบาพระราชมารดาของซาโลมอน และพระนางตรัสว่า “เจ้ามาอย่างสันติหรือ” และท่านทูลว่า “อย่างสันติ”
2:14 ท่านทูลยิ่งกว่านั้นว่า “ข้าพระองค์มีเรื่องที่จะทูลพระองค์” และพระนางตรัสว่า “จงพูดไปเถิด”
2:15 และท่านทูลว่า “พระองค์ทรงทราบแล้วว่าราชอาณาจักรนั้นเป็นของข้าพระองค์ และคนอิสราเอลทั้งสิ้นก็เงยหน้าขึ้นมองข้าพระองค์ว่าข้าพระองค์จะได้ครอบครอง อย่างไรก็ดีราชอาณาจักรได้ถูกหันไปเสีย และกลายเป็นของน้องชายของข้าพระองค์ ด้วยว่าราชอาณาจักรนั้นเป็นของพระองค์จากพระเยโฮวาห์
2:16 และบัดนี้ข้าพระองค์ทูลขอแต่ประการเดียวจากพระองค์ ขออย่าปฏิเสธข้าพระองค์เลย” และพระนางตรัสกับท่านว่า “จงพูดไปเถิด”
2:17 และท่านทูลว่า “ขอทูล ข้าพระองค์ขอร้องพระองค์ กษัตริย์ซาโลมอน (ด้วยว่าพระองค์จะไม่ทรงปฏิเสธพระนาง) ขอพระองค์ทรงยกอาบีชากชาวชูเนมให้แก่ข้าพระองค์เพื่อเป็นชายา”
2:18 และพระนางบัทเชบาตรัสว่า “ดีแล้ว เราจะทูลแทนเจ้าต่อกษัตริย์”
2:19 ฉะนั้นพระนางบัทเชบาได้เข้าเฝ้ากษัตริย์ซาโลมอน เพื่อทูลต่อพระองค์ด้วยเรื่องอาโดนียาห์ และกษัตริย์ได้ทรงลุกขึ้นเพื่อต้อนรับพระนาง และทรงคำนับพระนาง และได้ประทับบนพระที่นั่งของพระองค์ และรับสั่งให้นำพระแท่นมาถวายพระราชมารดาของกษัตริย์ และพระนางได้ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระองค์
2:20 แล้วพระนางตรัสว่า “แม่จะขอสิ่งเล็กน้อยจากลูกสักอย่างหนึ่ง แม่ขอร้องลูก ขอลูกอย่าปฏิเสธแม่เลย” และกษัตริย์ตรัสกับพระนางว่า “ขอมาเถิด เสด็จแม่ของลูก ด้วยว่าลูกจะไม่ปฏิเสธเสด็จแม่เลย”
2:21 และพระนางตรัสว่า “ขอยกอาบีชากชาวชูเนมให้แก่อาโดนียาห์พี่ชายของลูกเป็นชายาเถิด”
2:22 และกษัตริย์ซาโลมอนทรงตอบ และตรัสกับพระราชมารดาของพระองค์ว่า “และทำไมเสด็จแม่จึงขออาบีชากชาวชูเนมให้แก่อาโดนียาห์เล่า น่าจะขอราชอาณาจักรให้เขาด้วย เพราะเขาเป็นพี่ชายของลูก คือสำหรับเขา และสำหรับอาบียาธาร์ผู้เป็นปุโรหิต และสำหรับโยอาบบุตรชายของเศรุยาห์”
2:23 แล้วกษัตริย์ซาโลมอนทรงสาบานโดยพระเยโฮวาห์ โดยตรัสว่า “ขอพระเจ้าทรงกระทำต่อลูกและให้หนักยิ่งกว่าด้วย ถ้าอาโดนียาห์มิได้กล่าวถ้อยคำนี้ต่อชีวิตของเขาเองแล้ว
2:24 เพราะฉะนั้นบัดนี้ พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่แน่ฉันใด ผู้ซึ่งได้ทรงสถาปนาลูกไว้ และแต่งตั้งลูกไว้บนพระที่นั่งของดาวิดราชบิดาของลูก และผู้ซึ่งทรงตั้งราชวงศ์ของลูกไว้ ตามที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้ อาโดนียาห์จะต้องถูกประหารชีวิตวันนี้ฉันนั้น”
2:25 และกษัตริย์ซาโลมอนได้ทรงส่งไปโดยมือของเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดา และเขาประหารชีวิตของอาโดนียาห์เสีย ท่านจึงถึงแก่ความตาย

อาบียาธาร์ถูกปลดออกจากตำแหน่งปุโรหิต
2:26 และสำหรับอาบียาธาร์ผู้เป็นปุโรหิตนั้น กษัตริย์ตรัสว่า “ท่านจงไปอยู่ที่อานาโธท ไปสู่ไร่นาของท่านเอง ด้วยว่าท่านสมควรตาย แต่ในเวลานี้เราจะไม่ประหารชีวิตของท่าน เพราะว่าท่านได้หามหีบขององค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าต่อพระพักตร์ดาวิดราชบิดาของเรา และเพราะท่านได้รับความทุกข์ยากในทุกสิ่งที่ราชบิดาของเราได้รับความทุกข์ใจ”
2:27 ดังนั้นซาโลมอนจึงทรงขับไล่อาบียาธาร์เสียจากตำแหน่งปุโรหิตของพระเยโฮวาห์ เพื่อพระองค์จะกระทำให้พระวจนะของพระเยโฮวาห์สำเร็จ ซึ่งพระองค์ตรัสเกี่ยวกับวงศ์วานของเอลีในเมืองชีโลห์

โยอาบถูกประหารชีวิต
2:28 แล้วข่าวเหล่านี้มาถึงโยอาบ เพราะโยอาบได้หันไปตามอาโดนียาห์ ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้หันไปตามอับซาโลม และโยอาบได้หนีไปยังพลับพลาของพระเยโฮวาห์ และจับเชิงงอนของแท่นบูชาไว้
2:29 และมีคนไปกราบทูลกษัตริย์ซาโลมอนว่า “โยอาบได้หนีไปยังพลับพลาของพระเยโฮวาห์ และดูเถิด เขาอยู่ข้างแท่นบูชานั้น” ดังนั้นซาโลมอนจึงส่งเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาไป โดยตรัสว่า “จงไปประหารเขาเสีย”
2:30 และเบไนยาห์ได้มายังพลับพลาของพระเยโฮวาห์ และกล่าวแก่เขาว่า “กษัตริย์ตรัสดังนี้ว่า จงออกมาเถิด” และเขากล่าวว่า “ไม่ออกไป แต่ข้าจะตายที่นี่” และเบไนยาห์ได้นำความไปกราบทูลกษัตริย์อีก โดยทูลว่า “โยอาบได้กล่าวดังนี้ และเขาตอบข้าพระองค์อย่างนี้”
2:31 และกษัตริย์ตรัสกับเขาว่า “จงกระทำตามที่เขาได้พูดเถิด และประหารเขาเสีย และฝังเขาไว้ เพื่อเจ้าจะได้เอาโลหิตที่ไร้ความผิดซึ่งโยอาบได้กระทำให้หลั่งรินนั้นไปเสียจากเรา และจากวงศ์วานบิดาของเรา
2:32 และพระเยโฮวาห์จะทรงทำให้โลหิตของเขากลับมาตกบนศีรษะของเขาเอง ผู้ที่ได้ฆ่าชายสองคนที่ชอบธรรมยิ่งกว่าและดีกว่าตัวเขา และได้ฆ่าเขาทั้งสองด้วยดาบ โดยที่ดาวิดราชบิดาของเราหาทรงทราบไม่ คืออับเนอร์บุตรชายของเนอร์ผู้บัญชาการกองทัพของคนอิสราเอล และอามาสาบุตรชายของเยเธอร์ผู้บัญชาการกองทัพของยูดาห์
2:33 ฉะนั้นโลหิตของเขาทั้งสองจะกลับมาอยู่บนศีรษะของโยอาบ และบนศีรษะแห่งเชื้อสายของเขาเป็นนิตย์ แต่สำหรับดาวิด และสำหรับเชื้อสายของพระองค์ และสำหรับราชวงศ์ของพระองค์ และสำหรับพระที่นั่งของพระองค์ จะมีสันติภาพอยู่เป็นนิตย์จากพระเยโฮวาห์”
2:34 ดังนั้นเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาได้ขึ้นไป และฆ่าเขาและประหารเขาเสีย และเขาถูกฝังไว้ในบ้านของเขาเองในถิ่นทุรกันดาร

เบไนยาห์ได้เป็นแม่ทัพ ศาโดกได้เป็นมหาปุโรหิต
2:35 และกษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดาในตำแหน่งของโยอาบเหนือกองทัพ และกษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งศาโดกผู้เป็นปุโรหิตไว้ในตำแหน่งของอาบียาธาร์

ชิเมอีถูกประหารชีวิต
2:36 และกษัตริย์ได้ทรงส่งไปและเรียกชิเมอีให้มาเข้าเฝ้า และตรัสกับเขาว่า “เจ้าจงสร้างบ้านหลังหนึ่งไว้สำหรับตนในกรุงเยรูซาเล็ม และอาศัยอยู่ที่นั่น และอย่าออกจากที่นั่นไปที่ไหนเลย
2:37 เพราะจะเป็นอย่างนี้ ในวันที่เจ้าออกไปและข้ามลำธารขิดโรนนั้น เจ้าจงรู้แน่เถิดว่า เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน โลหิตของเจ้าจะตกบนศีรษะของเจ้าเอง”
2:38 และชิเมอีทูลกษัตริย์ว่า “คำตรัสนั้นก็ดีแล้ว ตามที่กษัตริย์เจ้านายของข้าพระองค์ตรัสนั้น ผู้รับใช้ของพระองค์จะกระทำ” และชิเมอีได้อาศัยอยู่ในกรุงเยรูซาเล็มหลายวัน
2:39 และต่อมา เมื่อสิ้นสามปีแล้ว คนรับใช้สองคนของชิเมอีได้หนีไปยังอาคีชโอรสของมาอาคาห์กษัตริย์แห่งเมืองกัท และมีบางคนบอกชิเมอี โดยกล่าวว่า “ดูเถิด พวกคนรับใช้ของท่านอยู่ในเมืองกัท”
2:40 และชิเมอีได้ลุกขึ้น และผูกอานลาของเขา และไปเฝ้าอาคีชที่เมืองกัทเพื่อแสวงหาพวกคนรับใช้ของตน และชิเมอีได้นำพวกคนรับใช้ของตนมาจากเมืองกัท
2:41 และมีผู้กราบทูลซาโลมอนว่า ชิเมอีได้ไปจากกรุงเยรูซาเล็มถึงเมืองกัท และกลับมาแล้ว
2:42 และกษัตริย์ได้ทรงส่งไปและเรียกชิเมอีให้มาเข้าเฝ้า และตรัสกับเขาว่า “เราได้ให้เจ้าปฏิญาณโดยพระเยโฮวาห์มิใช่หรือ และได้ตักเตือนเจ้าแล้ว โดยกล่าวว่า ‘เจ้าจงรู้แน่เถิดว่า ในวันที่เจ้าออกไป และเดินทางไปที่ใด ๆ ก็ตาม เจ้าจะต้องตายอย่างแน่นอน’ และเจ้าก็ได้ตอบเราว่า ‘คำตรัสที่ข้าพระองค์ได้ยินนั้นก็ดีแล้ว’
2:43 แล้วทำไมเจ้าจึงไม่รักษาคำปฏิญาณต่อพระเยโฮวาห์ไว้ และคำบัญชาที่เราได้กำชับเจ้านั้น”
2:44 กษัตริย์ตรัสยิ่งกว่านั้นกับชิเมอีว่า “เจ้าก็ทราบถึงความชั่วทั้งสิ้นซึ่งใจของเจ้าคิดนั้น ซึ่งเจ้าได้กระทำต่อดาวิดราชบิดาของเรา เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์จะทรงนำความชั่วของเจ้ากลับมาสนองเหนือศีรษะของเจ้าเอง
2:45 และกษัตริย์ซาโลมอนจะได้รับพระพร และพระที่นั่งของดาวิดจะถูกสถาปนาต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์เป็นนิตย์”
2:46 ดังนั้นกษัตริย์จึงทรงบัญชาเบไนยาห์บุตรชายของเยโฮยาดา ผู้ซึ่งได้ออกไป และประหารชิเมอีเสีย เขาจึงถึงแก่ความตาย และราชอาณาจักรถูกสถาปนาไว้ในพระหัตถ์ของซาโลมอน

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope