กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

มาระโก 1

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16]

การประกาศของยอห์นผู้ให้รับบัพติศมา (มธ 3:1-11; ลก 3:1-16; ยน 1:6-8, 19-28)
1:1 การเริ่มต้นแห่งข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์พระบุตรของพระเจ้า
1:2 ตามที่มีเขียนไว้ในพวกศาสดาพยากรณ์ว่า ‘ดูเถิด เราส่งทูตของเราไปข้างหน้าท่าน ผู้ซึ่งจะเตรียมหนทางของท่านไว้ข้างหน้าท่าน
1:3 เสียงของผู้หนึ่งที่ร้องในถิ่นทุรกันดารว่า “ท่านทั้งหลายจงเตรียมมรรคาขององค์พระผู้เป็นเจ้า จงกระทำบรรดาหนทางของพระองค์ให้ตรงไป”’
1:4 ยอห์นได้ให้บัพติศมาในถิ่นทุรกันดาร และประกาศเรื่องบัพติศมาแห่งการกลับใจใหม่ เพราะการทรงยกบาปทั้งหลาย
1:5 และทุกคนทั่วแผ่นดินยูเดียได้ออกไปหายอห์น และบรรดาคนแห่งกรุงเยรูซาเล็ม และทุกคนได้รับบัพติศมาจากท่านในแม่น้ำจอร์แดน โดยสารภาพบาปทั้งหลายของตน
1:6 และยอห์นแต่งกายด้วยผ้าขนอูฐ และด้วยหนังสัตว์ที่คาดเอวของท่าน และท่านได้รับประทานพวกตั๊กแตนและน้ำผึ้งป่า
1:7 และประกาศ โดยกล่าวว่า “มีพระองค์ผู้หนึ่งที่ทรงมีฤทธิ์ยิ่งกว่าเรา เสด็จมาภายหลังเรา ผู้ซึ่งเราไม่คู่ควรที่จะน้อมตัวลงและแก้สายรัดรองเท้าของพระองค์
1:8 แท้จริง เราได้ให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยน้ำ แต่พระองค์นั้นจะทรงให้ท่านทั้งหลายรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์”

พระเยซูทรงรับบัพติศมาจากยอห์น (มธ 3:13-17; ลก 3:21-22)
1:9 และต่อมาในวันเหล่านั้นพระเยซูเสด็จมาจากเมืองนาซาเร็ธแห่งแคว้นกาลิลี และได้ทรงรับบัพติศมาจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน
1:10 และในทันใดนั้นเมื่อเสด็จขึ้นมาจากน้ำ พระองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นฟ้าสวรรค์ทั้งหลายแหวกออก และพระวิญญาณดุจนกเขาตัวหนึ่งเสด็จลงมาบนพระองค์
1:11 และมีเสียงหนึ่งจากสวรรค์ ซึ่งตรัสว่า “ท่านเป็นบุตรที่รักของเรา ผู้ซึ่งเราโปรดปรานมาก”

พระเยซูถูกทดลองโดยซาตาน (มธ 4:1-11; ลก 4:1-13)
1:12 และในทันใดนั้น พระวิญญาณทรงเร่งเร้าพระองค์เข้าไปในถิ่นทุรกันดาร
1:13 และพระองค์ทรงอยู่ในถิ่นทุรกันดารนั้นเป็นเวลาสี่สิบวัน โดยถูกทดลองจากซาตาน และทรงอยู่กับบรรดาสัตว์ป่า และพวกทูตสวรรค์ปรนนิบัติพระองค์

พระเยซูทรงเริ่มประกาศในแคว้นกาลิลี (มธ 4:12-13; ลก 4:14)
1:14 บัดนี้หลังจากยอห์นถูกขังไว้ในคุกแล้ว พระเยซูได้เสด็จมายังแคว้นกาลิลี โดยทรงประกาศข่าวประเสริฐแห่งอาณาจักรของพระเจ้า
1:15 และตรัสว่า “เวลากำหนดมาถึงแล้ว และอาณาจักรของพระเจ้าก็มาใกล้แล้ว ท่านทั้งหลายจงกลับใจเสียใหม่ และเชื่อข่าวประเสริฐเถิด”

ทรงเรียกซีโมน อันดรูว์ ยากอบ และยอห์น (มธ 4:18-32; ลก 5:10-11; ยน 1:35-42)
1:16 บัดนี้ขณะที่พระองค์เสด็จไปข้างทะเลกาลิลี พระองค์ก็ทอดพระเนตรเห็นซีโมนและอันดรูว์น้องชายของเขา กำลังทอดอวนอยู่ในทะเล เพราะเขาทั้งสองเป็นชาวประมง
1:17 และพระเยซูตรัสกับเขาทั้งสองว่า “พวกท่านจงตามเรามาเถิด และเราจะกระทำพวกท่านให้กลายเป็นชาวประมงผู้จับคน”
1:18 และในทันใดนั้น เขาทั้งสองได้ละอวนทั้งหลายของตน และตามพระองค์ไป
1:19 และเมื่อพระองค์เสด็จต่อไปอีกหน่อยหนึ่งจากที่นั่นแล้ว พระองค์ทอดพระเนตรเห็นยากอบบุตรชายของเศเบดีกับยอห์นน้องชายของเขา ผู้ซึ่งอยู่ในเรือกำลังซ่อมอวนทั้งหลายของตนด้วย
1:20 และในทันใดนั้นพระองค์ได้ทรงเรียกเขาทั้งสอง และเขาทั้งสองได้ละเศเบดีบิดาของตนไว้ในเรือกับพวกลูกจ้าง และตามพระองค์ไป

พระเยซูในเมืองคาเปอรนาอุม ทรงขับผีทั้งหลายออก (ลก 4:31-37)
1:21 และพระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในเมืองคาเปอรนาอุม และทันใดนั้นในวันสะบาโตพระองค์ได้เสด็จเข้าไปในธรรมศาลา และทรงสั่งสอน
1:22 และเขาทั้งหลายก็ประหลาดใจด้วยหลักคำสอนของพระองค์ เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสั่งสอนพวกเขาเหมือนผู้หนึ่งที่มีสิทธิอำนาจ และไม่เหมือนพวกธรรมาจารย์
1:23 และในธรรมศาลาของพวกเขามีชายคนหนึ่งที่มีผีโสโครกตนหนึ่งเข้าสิง และมันได้ร้องออกมา
1:24 โดยกล่าวว่า “ปล่อยพวกเราไว้แต่ลำพังเถิด พวกเราเกี่ยวข้องอะไรกับท่านเล่า ท่าน พระเยซูแห่งนาซาเร็ธ ท่านมาเพื่อจะทำลายพวกเราหรือ ข้ารู้ว่าท่านเป็นผู้ใด คือองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า”
1:25 และพระเยซูตรัสห้ามมัน โดยตรัสว่า “เจ้าจงนิ่งเสีย และออกมาจากเขาซิ”
1:26 และเมื่อผีโสโครกตนนั้นได้ทำให้เขาชักและร้องด้วยเสียงดังแล้ว มันก็ออกมาจากเขา
1:27 และพวกเขาทุกคนก็ประหลาดใจ จนกระทั่งพวกเขาถามกันในท่ามกลางพวกเขาเอง โดยกล่าวว่า “สิ่งนี้เป็นอะไรหนอ หลักคำสอนใหม่นี้คืออะไร เพราะท่านสั่งแม้แต่ผีโสโครกทั้งหลายด้วยสิทธิอำนาจ และพวกมันก็เชื่อฟังท่าน”
1:28 และในทันใดนั้น ชื่อเสียงของพระองค์ก็เลื่องลือไปตลอดทั่วบริเวณที่อยู่รอบแคว้นกาลิลี

พระเยซูทรงรักษาแม่ยายของซีโมนเปโตรให้หาย (มธ 8:14-15; ลก 4:38-39)
1:29 และในทันใดนั้นเมื่อพระองค์กับพวกเขาออกมาจากธรรมศาลาแล้ว พระองค์กับพวกเขาจึงเข้าไปในบ้านของซีโมนและอันดรูว์ พร้อมกับยากอบและยอห์น
1:30 แต่แม่ยายของซีโมนนอนป่วยเป็นไข้อยู่ และในไม่ช้าพวกเขาจึงทูลพระองค์ให้ทราบเกี่ยวกับนาง
1:31 และพระองค์ก็เสด็จมาและจับมือของนาง และพยุงนางขึ้น และในทันใดนั้นไข้นั้นก็ออกไปจากนาง และนางปรนนิบัติเขาทั้งหลาย

ในเวลาเย็นพระเยซูทรงรักษาคนเป็นอันมากให้หาย (มธ 8:16-17; ลก 4:40-41)
1:32 และในเวลาเย็น เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว เขาทั้งหลายพาบรรดาคนที่เป็นโรคภัย และคนทั้งหลายที่มีพวกผีเข้าสิงอยู่ มาหาพระองค์
1:33 และคนทั้งนครก็ออกันอยู่ที่ประตู
1:34 และพระองค์ได้ทรงรักษาคนที่เป็นโรคต่าง ๆ ให้หายหลายคน และได้ทรงขับผีออกเสียหลายผี และไม่ทรงอนุญาตให้ผีเหล่านั้นพูด เพราะว่าพวกมันรู้จักพระองค์

พระเยซูทรงอธิษฐานแล้วออกไปประกาศ (ลก 4:42-44)
1:35 และในตอนเช้ามืด โดยทรงลุกขึ้นก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นตั้งนาน พระองค์เสด็จออกไป และเสด็จเข้าไปในที่เปลี่ยว และทรงอธิษฐานอยู่ที่นั่น
1:36 และซีโมนกับคนทั้งหลายที่อยู่กับเขาก็ตามหาพระองค์
1:37 และเมื่อพวกเขาได้พบพระองค์แล้ว พวกเขาจึงทูลพระองค์ว่า “คนทั้งสิ้นแสวงหาพระองค์”
1:38 และพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ให้เราทั้งหลายเข้าไปในเมืองต่าง ๆ ถัดไปเถิด เพื่อเราจะได้ประกาศที่นั่นด้วย เพราะเหตุนี้เองเราจึงได้ออกมา”
1:39 และพระองค์ได้ประกาศในธรรมศาลาทั้งหลายของพวกเขาตลอดทั่วแคว้นกาลิลี และทรงขับผีออกเสียหลายผี

พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อนให้หาย (มธ 8:2-4; ลก 5:12-14)
1:40 และคนโรคเรื้อนคนหนึ่งมาหาพระองค์ โดยทูลวิงวอนพระองค์ และคุกเข่าลงต่อพระพักตร์พระองค์ และทูลพระองค์ว่า “ถ้าพระองค์จะโปรด พระองค์ทรงฤทธิ์สามารถทำให้ข้าพระองค์สะอาดได้”
1:41 และพระเยซู ซึ่งทรงเกิดพระทัยกรุณา จึงทรงยื่นพระหัตถ์ของพระองค์ออก และสัมผัสตัวเขา และตรัสกับเขาว่า “เราพอใจแล้ว ท่านจงสะอาดเถิด”
1:42 และทันทีที่พระองค์ตรัสแล้ว ในทันใดนั้นโรคเรื้อนก็หายจากเขา และเขาก็ถูกชำระให้สะอาด
1:43 และพระองค์ได้ทรงกำชับคนนั้นอย่างแข็งขัน และในทันใดนั้นได้ทรงส่งเขาไป
1:44 และตรัสกับเขาว่า “ท่านอย่าบอกเล่าอะไรให้ผู้ใดฟังเลย แต่จงไปตามทางของท่าน สำแดงตัวแก่ปุโรหิต และสำหรับการหายสะอาดของท่าน จงถวายสิ่งเหล่านั้นซึ่งโมเสสได้สั่งไว้ เพื่อเป็นพยานต่อคนทั้งหลาย”
1:45 แต่คนนั้นก็ออกไป และเริ่มป่าวประกาศเรื่องนี้อย่างมาก และรายงานเรื่องนี้ไปทั่ว จนถึงขนาดที่พระเยซูไม่สามารถเสด็จเข้าไปในนครอย่างเปิดเผยได้อีกต่อไป แต่ต้องประทับอยู่ภายนอกในถิ่นทุรกันดารต่าง ๆ และคนทั้งหลายมาหาพระองค์จากทุกแห่งหน

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope