กลับหน้าแรกพระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์

 

มาระโก 5

[1] [2] [3] [4] [5] [6] [7] [8] [9] [10] [11] [12] [13] [14] [15] [16]

ทรงขับผีออกจากผู้ชายที่แผ่นดินของชาวกาดารา (มธ 8:28-34; ลก 8:26-37)
5:1 และพระองค์กับพวกสาวกก็ข้ามทะเลไปฝั่งฟากข้างโน้น เข้ามาในแผ่นดินของชาวกาดารา
5:2 และเมื่อพระองค์เสด็จขึ้นจากเรือแล้ว ในทันใดนั้นมีชายคนหนึ่งที่มีผีโสโครกตนหนึ่งเข้าสิงอยู่ออกมาจากบรรดาอุโมงค์ฝังศพ มาพบพระองค์
5:3 ผู้ซึ่งมีที่อยู่อาศัยของเขาอยู่ท่ามกลางบรรดาอุโมงค์ฝังศพ และไม่มีผู้ใดสามารถผูกมัดตัวเขาได้ ไม่มีเลย แม้แต่ด้วยโซ่หลายเส้นก็ทำไม่ได้
5:4 เพราะว่าเขาเคยถูกมัดไว้ด้วยพวกโซ่ตรวนกับโซ่หลายเส้นบ่อย ๆ และโซ่เหล่านั้นได้ถูกดึงออกจากกันโดยเขา และโซ่ตรวนเหล่านั้นถูกหักเป็นชิ้น ๆ และไม่มีผู้ใดสามารถทำให้เขาเชื่อฟังได้
5:5 และตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน เขาอยู่ในภูเขาทั้งหลาย และในบรรดาอุโมงค์ฝังศพ โดยส่งเสียงร้อง และเชือดเนื้อของตัวเองด้วยก้อนหินต่าง ๆ
5:6 แต่เมื่อเขาเห็นพระเยซูแต่ไกล เขาก็วิ่งมาและนมัสการพระองค์
5:7 และร้องด้วยเสียงดัง และกล่าวว่า “ข้าเกี่ยวข้องอะไรกับพระองค์เล่า ข้าแต่พระเยซู พระองค์ผู้ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้าสูงสุด ข้าขอให้พระองค์ปฏิญาณโดยพระเจ้าว่า พระองค์จะไม่ทรมานข้า”
5:8 เพราะพระองค์ได้ตรัสแก่มันว่า “จงออกมาจากคนนั้นเถิด เจ้าผีโสโครก”
5:9 และพระองค์ตรัสถามมันว่า “เจ้าชื่ออะไร” และมันตอบ โดยกล่าวว่า “ชื่อของข้าคือ กอง เพราะว่าพวกเรามีหลายตน”
5:10 และมันอ้อนวอนพระองค์เป็นอันมากขอร้องไม่ให้พระองค์ส่งพวกมันออกไปจากแผ่นดินนั้น
5:11 บัดนี้มีสุกรฝูงใหญ่กำลังหากินอยู่ที่นั่นใกล้ภูเขาเหล่านั้น
5:12 และพวกผีทั้งหมดก็อ้อนวอนพระองค์ โดยกล่าวว่า “ขอโปรดส่งพวกเราเข้าไปในสุกรฝูงนั้นเถิด เพื่อพวกเราจะเข้าสิงในตัวพวกมัน”
5:13 และในทันใดนั้น พระเยซูก็ประทานการอนุญาตแก่พวกมัน และผีโสโครกเหล่านั้นจึงออกไป และเข้าสิงอยู่ในสุกรฝูงนั้น และสุกรทั้งฝูงนั้นก็วิ่งอย่างรุนแรงจากหน้าผาชันลงไปในทะเล (พวกมันมีประมาณสองพันตัว) และสำลักน้ำตายในทะเลนั้น
5:14 และคนเหล่านั้นที่เลี้ยงฝูงสุกรนั้นก็หนีไป และเล่าเรื่องนั้นในนครและในบ้านนอก และคนทั้งหลายก็ออกมาเพื่อดูสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น
5:15 และพวกเขามาถึงพระเยซู และเห็นคนที่เคยถูกผีเข้าสิงอยู่นั้น และเคยมีผีทั้งกองนั้น กำลังนั่งอยู่ และนุ่งห่มเสื้อผ้า และมีสติอารมณ์ดี และพวกเขาก็กลัว
5:16 และคนเหล่านั้นที่ได้เห็นสิ่งนั้น ได้เล่าให้พวกเขาฟังเรื่องสิ่งซึ่งบังเกิดแก่คนที่เคยถูกผีเข้าสิงนั้น และเรื่องฝูงสุกรด้วย
5:17 และพวกเขาเริ่มอ้อนวอนพระองค์ให้เสด็จไปเสียจากบรรดาเขตแดนของพวกเขา
5:18 และเมื่อพระองค์เสด็จลงเรือแล้ว คนที่เคยถูกผีเข้าสิงนั้นได้อ้อนวอนพระองค์ให้เขาได้อยู่กับพระองค์ต่อไป
5:19 แต่พระเยซูไม่ทรงอนุญาตเขา แต่ตรัสแก่เขาว่า “จงกลับบ้านไปหาพวกพ้องของท่าน และบอกพวกเขาถึงบรรดาสิ่งอันยิ่งใหญ่ซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงกระทำเพื่อท่าน และได้ทรงพระกรุณาแก่ท่านแล้ว”
5:20 และคนนั้นก็จากไป และเริ่มประกาศในแคว้นทศบุรีถึงบรรดาสิ่งอันยิ่งใหญ่ที่พระเยซูได้ทรงกระทำเพื่อเขา และพวกเขาทุกคนก็ประหลาดใจนัก

หญิงที่ถูกต้องชายเสื้อผ้าได้รับการรักษาให้หาย ลูกสาวของไยรัสเป็นขึ้นมาจากความตาย (มธ 9:18-26; ลก 8:41-56)
5:21 และเมื่อพระเยซูเสด็จข้ามไปฝั่งฟากข้างโน้นอีกโดยทางเรือ คนเป็นอันมากแห่กันมาหาพระองค์ และพระองค์ทรงอยู่ใกล้ทะเล
5:22 และดูเถิด นายธรรมศาลาคนหนึ่งชื่อไยรัสมาหา และเมื่อเขาเห็นพระองค์แล้ว เขาก็กราบลงที่พระบาทของพระองค์
5:23 และอ้อนวอนพระองค์เป็นอันมาก โดยทูลว่า “ลูกสาวเล็ก ๆ ของข้าพระองค์ป่วยเกือบจะตายแล้ว ข้าพระองค์ขอร้องพระองค์ ขอเสด็จมาและวางพระหัตถ์ทั้งสองของพระองค์บนตัวเขา เพื่อเขาจะได้รับการรักษาให้หาย และเขาจะมีชีวิตอยู่”
5:24 และพระเยซูได้เสด็จไปกับคนนั้น และคนเป็นอันมากตามพระองค์ไป และเบียดเสียดพระองค์
5:25 และผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นโรคตกเลือดมาสิบสองปีแล้ว
5:26 และได้ทนทุกข์หลายอย่างจากหมอหลายคน และได้เสียทรัพย์ทั้งหมดที่นางมีอยู่นั้น และไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่กลับแย่ลงเรื่อย ๆ
5:27 เมื่อนางนั้นได้ยินเรื่องพระเยซูแล้ว ก็มากับประชาชนที่เบียดเสียดข้างหลังพระองค์ และแตะต้องเสื้อผ้าของพระองค์
5:28 เพราะนางกล่าวว่า “ถ้าเราสามารถแตะต้องแม้แต่เสื้อผ้าของพระองค์ เราก็จะหายเป็นปกติ”
5:29 และในทันใดนั้นแหล่งแห่งเลือดของนางก็แห้งไป และนางก็รู้สึกในร่างกายของนางว่า นางได้รับการรักษาให้หายจากโรคนั้นแล้ว
5:30 และพระเยซู ในทันใดนั้นทรงทราบในตัวของพระองค์เองว่า ฤทธิ์ซ่านได้ออกจากพระองค์แล้ว พระองค์จึงหันไปในฝูงชนที่เบียดเสียดกันนั้น และตรัสว่า “ใครแตะต้องเสื้อของเรา”
5:31 และพวกสาวกของพระองค์ก็ทูลพระองค์ว่า “พระองค์ทอดพระเนตรเห็นประชาชนที่กำลังเบียดเสียดพระองค์ และพระองค์ตรัสหรือว่า ‘ใครแตะต้องเรา’”
5:32 และพระองค์ทอดพระเนตรดูรอบ ประสงค์จะเห็นผู้หญิงที่ได้กระทำสิ่งนี้
5:33 แต่ผู้หญิงนั้นก็กลัวและตัวสั่น โดยทราบสิ่งที่ได้ถูกกระทำในตัวนาง จึงมาและกราบลงต่อพระพักตร์พระองค์ และทูลความจริงทั้งสิ้นแก่พระองค์
5:34 และพระองค์ตรัสแก่นางว่า “ลูกสาวเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าทำให้เจ้าหายเป็นปกติแล้ว จงไปเป็นสุข และหายเป็นปกติจากโรคของเจ้าเถิด”
5:35 ขณะที่พระองค์ยังตรัสอยู่ บางคนได้มาจากบ้านของนายธรรมศาลาซึ่งกล่าวว่า “ลูกสาวของท่านตายเสียแล้ว ท่านยังรบกวนอาจารย์ต่อไปอีกทำไมเล่า”
5:36 ทันทีที่พระเยซูทรงได้ยินคำที่ถูกกล่าวนั้น พระองค์ตรัสแก่นายธรรมศาลาว่า “อย่ากลัวเลย จงเชื่อเท่านั้นเถิด”
5:37 และพระองค์ไม่ทรงอนุญาตให้ผู้ใดตามพระองค์ไป เว้นแต่เปโตร และยากอบ และยอห์นน้องชายของยากอบ
5:38 และพระองค์เสด็จมาถึงบ้านของนายธรรมศาลา และทอดพระเนตรเห็นความวุ่นวาย และคนทั้งหลายที่ร้องไห้และคร่ำครวญเป็นอันมาก
5:39 และเมื่อพระองค์เสด็จเข้ามาแล้ว พระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “ท่านทั้งหลายทำความวุ่นวายนี้ และร้องไห้ทำไม เด็กหญิงนั้นไม่ตาย แต่นอนหลับอยู่”
5:40 และพวกเขาก็หัวเราะเยาะเย้ยพระองค์ แต่เมื่อพระองค์ทรงขับคนเหล่านั้นออกไปแล้ว พระองค์ทรงนำบิดามารดาของเด็กหญิงนั้น และคนเหล่านั้นที่อยู่กับพระองค์ และเข้าไปในที่ที่เด็กหญิงนั้นนอนอยู่
5:41 และพระองค์ทรงจับมือเด็กหญิงนั้น และตรัสแก่เขาว่า “ทาลิธา คูมิ” ซึ่งแปลว่า “เด็กหญิงเอ๋ย เรากล่าวแก่เจ้าว่า จงลุกขึ้นเถิด”
5:42 และในทันใดนั้นเด็กหญิงนั้นก็ลุกขึ้นและเดิน เพราะว่าเด็กหญิงนั้นอายุได้สิบสองปีแล้ว และคนทั้งหลายก็ตกตะลึงด้วยความตกตะลึงอย่างยิ่ง
5:43 และพระองค์ทรงกำชับพวกเขาอย่างแข็งขันว่า ไม่ให้ผู้ใดทราบเรื่องนี้ และสั่งให้นำบางอย่างมาให้เด็กหญิงนั้นรับประทาน

 

พระคัมภีร์ภาษาไทยฉบับคิงเจมส์ / Thai Bible King James Version

© 2006 Philip Pope